จากกรณี หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดารานักแสดงหญิงบทตัวร้ายชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรม ชื่อ “ningpanita”ทำนองว่าตำรวจจราจรไม่ยอมเขียนใบสั่งทันที มีท่าทีจะเรียกรับสินบน ขณะเกิดเหตุดาราสาวอ้างว่า ขับรถเก๋งยี่ห้อหรูไปเข้าฉาก แต่ไม่รู้ทางขับผิดเลนแล้วเปลี่ยนเลนจนถูกจับ ตำรวจทำเดินวนไปวนมา ถามแม้กระทั่งชื่อยี่ห้อรถทั้งที่ท้ายรถที่ก็มียี่ห้อติด คือแบบรู้เลยจะเอาตัง เขียนใบสั่งมาเถอะค่ะ ทำผิดก้อต้องปฏิบัติตามกฎถ้าตำรวจมายกโทษให้เรา รับตังค์ คงมีคนผิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตำรวจดีๆ ก็มีเยอะ แต่คนเกลียดตำรวจมันก็ไม่ต่างกับสุภาษิตไทย ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง ตอนหลังเจ้าตัวก็ลบโพสต์ออกไปนั้น
ความคืบหน้า) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.จร. พ.ต.ท.พันษา อมราพิทักษ์ รองผกก.2 ศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี บก.จร. ร่วมกันชี้แจงกรณีดังกล่าว
พ.ต.ท.พันษา กล่าวว่า ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลที่ปรากฏผ่านมาทางโซเซียลมีเดียว่า มีผู้ขับขี่รถยนต์เป็นนักแสดงที่เป็นที่รู้จักขับขี่รถยนต์มายังบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) ตั้งแต่แยกบางเขนมาถึงบริเวณหน้ากองบัญชาการศึกษา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้เรียกตรวจสอบเพื่อดำเนินการออกใบสั่งนั้น ข้อเท็จจริงตามวันเวลาเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.30 น. เป็นชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรยศ ส.ต.ท. ออกอำนวยการจราจรเนื่องจากมีรถยนต์อยู่บนพื้นผิวการจราจรค่อนข้างมาก รถคันดังกล่าววิ่งคู่ขนานมาแล้วเบี่ยงออกทางด้านขวาเป็นเส้นทึบ เป็นเครื่องหมายจราจรห้ามแซง แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ปาดออก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้เรียกให้หยุดรถ แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับรถผิดกฎหมาย ขอตรวจใบขับขี่ ขณะขอตรวจสอบใบขับขี่ก็ได้รับแจ้งว่าไม่ได้พกใบขับขี่มาขณะขับรถ
พ.ต.ท.พันษา กล่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถหรูตนตรวจสอบดูแล้วก็ยังไม่ทราบว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้ออะไร จนทราบภายหลังว่าเป็น “มาเซเรติ” ส.ต.ท.ก็ไม่ทราบว่ารถยนต์ยี่ห้อมาเซเรติตัวเขียนชื่อยี่ห้อรถที่ถูกต้องเป็นอย่างไร จึงได้ถามนักแสดงคนดังกล่าวบอกมาว่า ยี่ห้อมาเซเรติ แต่ก็ยังเขียนไม่ถูก จึงได้เดินไปดูที่ตัวรถ เพราะเป็นรายละเอียดสำคัญต้องลงในใบสั่งและลงในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วน หลังจากนั้นได้ฉีกใบสั่งตามขั้นตอนให้กับผู้ขับขี่ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กระทั่งได้มีการโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวของนักแสดงที่มีคนติดตามค่อนข้างเยอะมาก สื่อมวลชนหลายแขนงได้นำไปลงข่าว จึงได้มีการตรวจสอบข้อมูลว่ารถคันดังกล่าว
“ตรวจในระบบฐานข้อมูลออนไลน์พบว่า ทะเบียนรถยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ตรงกับรถที่ออกใบสั่ง โดยทะเบียนรถบีเอ็มดับเบิลยูเป็นชื่อของดาราสาวเป็นผู้ครอบครองรถ ทางสน.วิภาวดีรังสิต ได้ทำหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกที่เป็นนายทะเบียนและฐานข้อมูลออนไลน์ ได้รับแจ้งว่าใบขับขี่ผู้ที่ถูกออกใบสั่งขาดไปตั้งแต่ปี 2557 แจ้งหมายเหตุไว้ด้วยว่า ฐานข้อมูลอาจจะไม่ได้มีการอัพเดตไว้ เหลือเพียงรอกรมการขนส่งทางบกแจ้งผลมาให้ทราบ เบื้องต้นแจ้งข้อหากระทำความผิด ตามพ.ร.บ.รถยนต์ ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนเส้นทาง และไม่มีใบขับขี่ที่สามารถแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที ส่วนแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีตรวจสอบแล้วขาดชำระการเสียภาษี มีความผิดเกี่ยวกับการไม่ชำระภาษีประจำปี กรณีข้อมูลรถกับป้ายทะเบียนปรากฏว่าไม่ตรงกัน นั้นจะตรวจสอบทางเอกสารอีกครั้งหากรถคันดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนก็มีความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ นำรถไม่จดทะเบียนมาใช้ในทาง มีโทษปรับค่อนข้างสูง แต่หากเป็นรถที่จดทะเบียนแต่นำแผ่นป้ายที่ออกให้รถยนต์อีกคันหนึ่งมาสวมเอาไว้อีกคันหนึ่งก็เป็นความผิดที่ลดลงมา” พ.ต.ท.พันษา กล่าว
พ.ต.ท.พันษา กล่าวต่อว่า ดาราสาวส่งผู้แทนมาชำระค่าปรับ ได้ชี้แจงว่ากรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดที่มีโทษทางคดีอาญา ผู้กระทำความผิดต้องมาชำระค่าปรับเองบริเวณที่ทำการ ขณะนี้ยังไม่ได้รับชำระค่าปรับแต่อย่างใด ส่วนของการชำระค่าปรับสามารถชำระค่าปรับได้ที่ทำการ หรือผ่านเว็บไซต์บัญชีธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศได้เช่นกัน ส่วนการใช้รถสลับทะเบียนและข้อมูลเกี่ยวกับรถอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ต้องดูว่ารถนำเข้ามาถูกต้องและจดทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ กรณีแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทหรือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องดูเนื้อหาของการโพสต์ข้อความว่าเกี่ยวข้องอย่างไร และผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการ
ด้าน พล.ต.ต.คมศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจสอบดังกล่าวไม่ใช่เป็นการเอาคืนการกระทำของทางผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด หลังจากออกใบสั่งแล้วทำการบันทึกข้อมูลลงระบบทีพีเอ็มหรือระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร (Police Ticket Management-PTM) เมื่อลงระบบดังกล่าวแล้วทะเบียนรถที่ได้มีการคีย์เข้าไปในระบบดังกล่าวตรวจสอบแล้วเป็นรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น 740 L สีเทา ไม่ใช่ยี่ห้อรถยนต์ยี่ห้อมาเซราติ กรณีที่มีการโพสต์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรในทางเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามหน้าที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่จราจรคับคั่ง ขอให้สงสารเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพราะเขาทำตามหน้าที่ไม่ได้มีเจตนาอื่นแต่อย่างใด
“กรณีที่อ้างว่ารถยังส่งซ่อมอยู่แล้วนำป้ายทะเบียนที่เป็นชื่อของตัวเองมาใส่เอาไว้อีกรถคันหนึ่งแทนนั้น ดาราสาวน่าจะเข้าใจผิด เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ 2 แบบ คือ รถนำเข้าถูกต้องเสียภาษีหรือไม่ ศุลกากรตรวจสอบที่มาถูกต้องหรือไม่ การจดทะเบียนหรือไม่นั้นทางกรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้ให้คำตอบกับตำรวจ แต่ทะเบียนรถที่นำมาใช้เป็นป้ายทะเบียนของรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยูแต่ตัวรถยนต์เป็นรถยนต์ยี่ห้อมาเซเรติ ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ชี้แจงตำรวจและต้องนำรถมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเป็นรถนำเข้าต้องนำหลักฐานนำเข้ามาให้ตรวจสอบ ขอให้เข้ามาพบ พ.ต.ท.พันษา หัวหน้าสถานีสน.วิภาวดีรังสิต เนื่องจากความผิดกรรมเดียวแต่หลายข้อหา การแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องแจ้งเรียงและเปรียบเทียบปรับในคราวเดียวกัน ขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจการตรวจสอบก่อน ส่วนจะมีการแจ้งหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น ต้องขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการพิจารณาก่อน เนื่องจากมีการโพสต์ความเอาไว้ 2 แบบ ต้องทำด้วยความละเอียดรอบครอบและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย” ผบก.จร. กล่าว
