โจรในคราบช่างซ่อม อาศัยตายายเผลอลักเงิน 25,000 บาท-เอกสารราชการ-เอทีเอ็ม กดเกลี้ยงบัญชี

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านโดยอาศัยจังหวะที่มีเพียงผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพังภายในบ้านเท่านั้น หลังรับแจ้งจึงไปที่บ้านเลขที่ 5 บ.ภูเหล็ก ม.9 ต.ภูเหล็ก อ.บ้านไผ่ ขอนแก่น พบกับนายสมพร ตะสิงห์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านได้พาเดินดูจุดที่ คนร้ายที่มาในคราบของช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทำทีมาซ่อมให้ ก่อนจะให้เจ้าของบ้านไปซื้ออะไหล่มาซ่อมถึง 3 รอบ ก่อนเข้าไปรื้อค้นเอาเงินสดที่เก็บไว้ภายในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอนจำนวน 25,000 บาท และเอกสารสำคัญทางราชการ บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชี ธ.ก.ส.ซึ่งมีรหัสผ่านสำหรับกดเงินติดอยู่ด้วยขึ้นรถหลบหนีไป

นายสมพร เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ได้มีช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อ้างตัวเองว่าชื่อนายชัย ขับรถยนต์กระบะ สีแดง ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงในรถยนต์ตระเวนมาในหมู่บ้าน เพื่อซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงได้เรียกให้ซ่อมตู้เย็น พัดลม จนสามารถใช้งานได้ ซึ่งช่างชัยได้เขียนชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ เพื่อใช้ในการประสานงานหากเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดอีก

“ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา นายชัย ได้มาหาที่บ้านพร้อมเพื่อนอีกคน อายุประมาณ 40 ปี ครั้งนี้ใช้รถยนต์กระบะสีน้ำเงิน มีเครื่องขยายเสียงติดในรถยนต์ มาหาที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าจะมาซ่อมกบไสไม้และเครื่องเล่นวิทยุให้ ผมจึงขนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการซ่อมมาให้ช่าง มีทั้งเลื่อยวงเดือน เครื่องเล่นวิทยุ และพัดลม ขณะซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้านายชัยได้ขอกินข้าวและเหล้า จึงหาให้กิน เมื่อกินข้าวอิ่ม ช่างได้ให้ไปซื้อกาวร้อนที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ซื้อกระดาษทราย จึงออกไปซื้อให้ ประมาณ 30 นาที กลับมาที่บ้าน พบเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งอยู่ ส่วนนายชัยกับเพื่อนหายตัวไป จึงได้นั่งรอจนถึงมืดค่ำ ช่างก็ยังไม่กลับมา จึงเดินมาสำรวจทรัพย์สินในบ้านว่ามีอะไรหายไปบ้าง ปรากฏว่าเงินสด 25,000 บาท พร้อมเอกสารสำคัญที่อยู่ในกระเป๋าผ้าสีดำ ที่ซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนหายไป” นายสมพรกล่าว และว่า เมื่อรู้ตัวว่าเงินหายพร้อมเอทีเอ็มและเอกสารสำคัญ จึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ และพาเข้าแจ้งความพร้อมอายัดบัตรเอทีเอ็ม แต่ทางธนาคารแจ้งว่า มีคนกดเอทีเอ็มเอาเงินไป 500 บาท สาเหตุที่คนร้ายกดเอทีเอ็มเอาเงินไปได้ เพราะเก็บสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มและรหัสบัตรเอทีเอ็มไว้ในกระเป๋าใบเดียวกัน อีกทั้งยังคงได้มีการโทรศัพท์ไปหานายชัย ตามที่ได้เขียนชื่อพร้อมเบอร์โทร ซึ่งเมื่อติดต่อไปนายชัยได้ตัดสายและไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านไผ่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image