‘ชัยวัฒน์-พวก’ รวม 4 คน รอดนอนคุก ศาลให้ประกัน คนละ 800,000 บาท

เมื่อเวลา 14.25 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติกลางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรี และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี), นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ 4 ผู้ต้องหา คดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวฆ่าและอำพรางการเสียชีวิตของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจินญ นักเคลื่อนไหวและแกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ถูกควบคุมตัววันที่ 17 เม.ย.57 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 พ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 10 ปาก และรอผลตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาและอื่นๆ โดยการฝากขังนี้ พนักงานสอบบสวนขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.30 น.ศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดีที่ 8 เพื่อพิจารณาคำร้อง โดยมีผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน DSI และ น.ส.พิณนภา หรือมึนอ พฤษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนบุตรสาวโดยชอบธรรม ยื่นคำร้องคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ ร่วมรับฟังการพิจารณาคำร้องฝากขัง

ซึ่งศาลสอบถามพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับคำร้องแล้วระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.57 นายพอละจี ได้ขับขี่รถ จยย.หมายเลขทะเบียน ขพง 988 เพชรบุรี บบรรทุกน้ำผึ้งป่า จากบ้านพักใน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นำไปส่งให้นายธีระ โชควิบูลย์ ที่สั่งไว้ ตามเส้นทาง มายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบว่าเมื่อมาถึงด่านตรวจเขามะเร็ว นายเกษม ลือฤทธิ์ และเจ้าหน้าที่อีก 2 นายได้ตรวจพบน้ำผึ้ง จึงแจ้งให้นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 รับทราบแล้วได้ขับรถยนต์ส่วนตัว ทะเบียน ยล 7821 เพชรบุรี มาพร้อมผู้ต้องหาอีก 3 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืน ได้ควบคุมตัวนายพอละจี พร้อมน้ำผึ้งของกลาง ขึ้นรถยนต์โดยไม่ได้ส่งพนักงานสอบสวน แต่อ้างว่าได้ปล่อยตัวระหว่างทาง

ต่อจากน้ันมารดา, ภรรยา และญาตินายพอละจี ได้ยื่นร้องทุกข์ต่อตำรวจ ขอให้ติดตามตัวนายพอละจี เพราะหาตัวนายพอละจีไม่พบ

Advertisement

กระทั่งเมื่อวันที่ 25 เม.ย.62 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยฯ​มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ใช้ยานสำรวจใต้น้ำ บริเวณสะพานแขวน พบวัตถุทรงเหลี่ยม จึงดำน้ำแล้วนำเอาถังน้ำมันขึ้นมา ซึ่งในถังมีชิ้นส่วนกระดุกมนุษย์ จำนวน 20 ชิ้น จึงได้ทำการส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรม ผลตรวจสารพันธุกรรมสอดคล้องกับนางโพละจี มารดาจึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นของนายพอละจี ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ขอศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา และผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้มามอบตัวในวันนี้ (12 พ.ย.) โดยพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยังดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานบุคคลอีก 10 ปาก และตรวจสอบลายนิ้วมือ กับรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งสี่ไว้เป็นเวลา 12 วัน

ซึ่งศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านกระบวนการขอฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องแล้วจึงอนุญาตได้

ขณะที่ศาลกำลังพิจารณา ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้

Advertisement

อย่างไรก็ดี ในช่วงเย็นจำเลยยื่นหลักทรัพย์พร้อมคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณา คำร้องขอปล่อยชั่วคราวและหลักทรัพย์ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยื่นแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยตีราคาประกันคนละ 800,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นได้รับอนุญาตจากศาล และให้ผู้ต้องหาทั้งสี่เดินทางมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดฝากขังครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 8 เเสนบาท 3 คนส่วนอีก 1 คนเป็นวงเงินในบัตรเครดิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image