เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่สน.บางนา พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผกก.สส.สน.บางนา และร.ต.อ.พิทักษ์ มีจิตร์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และตำรวจ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.บางนา จับกุมตัวนายอรรณพ เรืองสม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตระเวนชิงทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หมวกกันน็อกครึ่งใบ สีบรอนด์ และเสื้อผ้าที่ใช้สำหรับก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ภายในซอยบางนา-ตราด ซอย6 ถนนเทพรัตน แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เวลาประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมา มีน.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน สน.บางนา ว่าก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับคนร้ายเป็นชายรูปร่างหน้าตาดี ผ่านแอพพลิเคชั่น “Badoo” และได้ทำการนัดเจอกัน กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น.วันเดียวกัน ทางคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านอุดมสุข จากนั้นทางผู้เสียหายได้เข้าห้องน้ำ และเมื่อออกมา จู่ๆ ทางคนร้ายรายนี้ได้เข้ามาชกเข้าที่ใบหน้า และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะกระชากสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท สร้อยข้อมือ หนัก 50 สตางค์ และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 อีก 1 เครื่อง ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี โดยปล่อยให้ผู้เสียหายนอนจมกองเลือดอยู่ในโรงแรม กระทั่งมีพนักงานเข้ามาช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล
จากนั้นทาง ร.ต.อ.พิทักษ์ ได้นำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในโรงแรม ตลอดจนเส้นการหลบหนี พบคนร้ายรายนี้ยังเคยก่อเหตุกระชากระเป๋า ผู้เสียหายหญิงสาว ที่เดินตามริมถนนพื้นที่สน.บางนา ถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม จนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ต่อพบที่ซอยบางนา-ตราด ซอย6 ถนนเทพรัตน แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ จึงเรียกตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ก่อนนำตัวไปค้นห้องพักเป็นคอนโดหรู ในซอยสุขุมวิท62/1 แขวงบางจาก เขตพระพระโขนง กรุงเทพฯ พบกระเป๋าถือสำหรับผู้หญิง และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ จึงทำการตรวจยึด มาทำการสอบสวนที่สน.บางนา
ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง โดยเคยนัดเจอผู้เสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง ทำให้เหยื่อสาวติดใจ หลงไหลด้วยหน้าตาหล่อเหลาของตน กระทั่งครั้งล่าสุดต้องการใช้เงินจึงลงมือก่อเหตุทำร้ายดังกล่าว ตนยืนยันไม่ได้ตั้งใจจะเป็นโจร แต่สถานการณ์มันบีบคั้นจนต้องลงมือก่อเหตุ ทั้งนี้ตนจบการศึกษาชั้น ปวช.สาขาบัญชี สถาบันแห่งหนึ่ง เมื่อจบมาชื่นชอบการค้าขาย จึงจับธุรกิจขายสินค้ามือสอง ซึ่งจะไปควานหาสินค้าจากตลาดย่านคลองถม มาขายผ่านเว็ปไซด์ขายของออนไลน์ แต่เมื่อตนมีครอบครัว และมีลูกน้อยวัย 5 เดือน การเงินสะดุด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะแฟนสาวป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ตนจึงให้พักอยู่เลี้ยงลูก ประกอบกับปัจจุบันเช่าคอนโดมิเนี่ยม ในราคาเดือนละ 9,000 บาท ทำให้ตนต้องแบกรับภาระไว้เพียงคนเดียว แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา”ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายถึงสาหัส” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
