รวบโชเฟอร์สามล้ออายุ 18ปี ลวงด.ญ.วัย 14 ขืนใจคาห้องพัก ก่อนทิ้งเหยื่อนั่งรถเมล์กลับ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย และพ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย จับกุมตัว นายสิทธิปพล หรือทีม ทับทิมหิน อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1715/2562 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ในข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร ,พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร แม้เด็กจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” โดยสามารถจับกุมได้ที่สน.โชคชัย ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นางเอ (นามสมมติ) ผู้เป็นย่า พร้อมด้วย เด็กหญิงบี (นามสมมติ) วัย 14 ปี หลานสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจนครบาลโชคชัย ว่าหลานสาวถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำชำเรา ด้วยเมื่อกลางดึกวันเดียวกัน นายสิทธิปพล หรือทีม ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับผู้เสียหายที่บ้านพักย่านถนนสุขาภิบาล 5

จากนั้นได้พาไปยังห้องพัก ย่านลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นของเพื่อนนายสิทธิปพล หรือทีม พักอาศัย เมื่อไปถึงก็ออกอุบาย และให้เพื่อนออกไปจากห้อง ก่อนจะใช้กำลังบังคับ พร้อมกับลงมือกระทำชำเราเหยื่อวัย 14 ปี จนหนำใจ หลังจากนั้นได้พาผู้เสียหายขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตบางกะปิ เพื่อให้ฝ่ายเด็กหญิงนั่งรถเมล์โดยสารกลับ แต่เจ้าตัวหลับแล้วมาตื่นลงป้ายรถเมล์หน้าห้างดัง ย่านปทุมวัน นั่งร้องไห้ ก่อนมีตำรวจ สน.ปทุมวันมารับไปส่งที่ สน.โชคชัย

ต่อมาทางตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลอาญา ตลอดจนทำการกดดันจนทางนายสิทธิปพล หรือทีม ติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ก่อนทางตำรวจทำการจับกุมดังกล่าว และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

Advertisement

จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การว่ามีอาชีพขับรถสามล้อรับจ้าง อยู่ย่านปทุมวัน แต่ด้วยเมื่อก่อเคยขับวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ย่านโชคชัย 4 จึงทำให้มีเพื่อนอยู่ในย่านจุดเกิดเหตุ โดยรู้จักกับทางเด็กหญิงผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อไม่นานมานี้ และเป็นรุ่นน้องของเพื่อน ซึ่งวันเกิดเหตุฝ่ายหญิงเป็นคนทักแชทข้อความมาหาตน ว่าออกจากบ้านมาพักอยู่กับเพื่อนที่ย่านถนนสุขาภิบาล 5 ให้มารับ จากนั้นทางผู้ต้องหาจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ และสอบถามว่าจะให้ไปไหน แต่สุดท้ายตกลงไปนั่งเล่นห้องเพื่อนของฝ่ายชายที่จุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงห้องกลุ่มเพื่อนได้ออกจากห้องไป จึงทำให้เหลืออยู่กันเพียงสองต่อสอง โดยทางผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ฝ่ายหญิงเป็นผู้ที่ยินยอม ตนจึงลงมือก่อเหตุ และยืนยันไม่ได้มีการบังคับฝ่ายหญิงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร ,พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจาร แม้เด็กจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image