หนุ่มขี่ จยย.ขึ้นสะพานก่อนถูกรถชน พบชายอ้างเป็นตำรวจท่าทางเมา ชักปืนยิงขึ้นฟ้าก่อนมีรถรับหนีไป
เมื่อช่วงดึกวันที่ 18 พฤศจิกายน ร.ต.อ.เฉลิมพันธ์ ภูสมหมาย รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันแล้วมีผู้ใช้ปืนยิงข่มขู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าโรงแรมดุสิตธานี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบจักรยานยนต์ซูเมอร์เอ็กซ์ สีเหลือง ทะเบียน 1ขฒ 6998 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมทางบนสะพาน ห่างไปพบรถนิสสัน อัลเมร่า สีดำ ทะเบียน 7กข 5693 กรุงเทพมหานคร สภาพกระโปรงหน้าพังยับ ถัดไปอีกพบรถเบนซ์ อี200 สีดำ ทะเบียน พน 6211 กรุงเทพมหานคร จอดเสีย ล้อหน้าซ้ายยางแบน และพบกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายชนะชล เปราะแดง อายุ 26 ปี ผู้ขี่จักรยานยนต์ ให้การว่า ตนขี่จักรยานยนต์พาแม่จะไปส่งโรงพยาบาลกลาง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุบนสะพาน เห็นรถเบนซ์จอดเสียอยู่บนสะพาน จึงชะลอและพยายามเบี่ยงทาง แต่รถนิสสันขับมาชนเท้าทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ จังหวะนั้นทางคนขับรถเบนซ์ที่จอดเสียอยู่ได้ถือปืนลงมาจากรถ ลักษณะคล้ายคนมึนเมา ก่อนโวยวายอ้างว่าตัวเองเป็นตำรวจ บอกว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ยิงหัวเลยดีไหม” จากนั้นก็ยึดมือถือของตนไป เพื่อจะไม่ให้ถ่ายคลิป ตนพยายามขอคืนเพราะจะโทรศัพท์หาแฟนสาว เพื่อประสานพาแม่ไปโรงพยาบาล ทำให้อีกฝ่ายยอมคืนโทรศัพท์ แต่เมื่อตนจะโทรหาแฟน ปรากฏว่าเจ้าของรถเบนซ์โวยวาย ระหว่างนั้นรถกู้ชีพขับมาเพื่อจะช่วยเหลือคนเจ็บ เจ้าของรถเบนซ์ก็ถือปืนพร้อมพูดจาข่มขู่ และไปดึงกล้องหน้ารถกู้ชีพออก ก่อนชักปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ทำให้คนแตกตื่นกัน จากนั้นไม่นานก็มีชายฉกรรจ์ 4 คน แต่งกายใส่ชุดสีขาว ขับรถยนต์สีดำมารับตัวคนขับเบนซ์ไปทันที
ด้าน น.ส.ณัฐชยา ธรรมสุทธิพงษ์ อาสาสมัครกู้ภัยที่ขับรถพยาบาล เปิดเผยว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ลงมาพูดคุยกับคนเจ็บ ซึ่งเป็นแม่ของนายชนะชล จังหวะนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 2 นัด ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงรถจักรยานยนต์ จึงไม่ได้อะไร แต่พอได้ยินเสียงปืนนัดที่ 3 ตนจึงยกมือไหว้ขอชายคนขับรถเบนซ์เพื่อจะพาคนเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งชายคนดังกล่าวบอกว่า ให้พาคนเจ็บที่เป็นผู้หญิงไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ก่อนจะมุ่งไปที่รถพยาบาล พร้อมกับระบุว่า “กล้องหน้ารถเอาไปนะ ใครมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
เมื่อตรวจสอบที่รถเบนซ์พบหมวกตำรวจอยู่ที่หลังรถและยังพบบัตรห้อยคอ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในรถ ระบุชื่อตำรวจยศ พ.ต.อ. เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าเก็บหลักฐานทันที ก่อนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป
