มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุฯยื่นหลักฐานให้กองปราบคดีที่ดินเลือด ยัน’กิตติวุฒโฑ’งุบงิบซื้อที่ ด้าน ผบช.ก.สั่งทีมพงส.ทวงคืนที่ดินคืนพุทธศาสนา
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายมนัส พวงลำเจียก ผู้จัดการมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย พร้อม นายชวาลิน พึ่งบุญ ณ อยุธยา ที่ปรึกษากฎหมายของมูลนิธิฯ เข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติมในคดีพิพาทที่ดิน 3,800 ไร่ ใน จ.จันทบุรี
นายมนัส กล่าวว่า มูลนิธิฯเพิ่งทราบเรื่องที่ดินดังกล่าวจาก น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งมูลนิธิฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงรีบตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินจังหวัดจันทบุรี แต่ไม่พบสัญญาซื้อขายที่มีชื่อของมูลนิธิ และชื่อของพระกิตติวุฒโฑ พบเพียงเอกสารหนังสือรับรองการซื้อขาย ปี 2513 และส่งมอบที่ดินให้กับนายบุญช่วย เจริญสถาพร น้องชายพระกิตติวุฒโฑ โดยมี นายเรวัติ โกศลานันท์ ทายาท นายสมพล โกศลานันท์ เจ้าของที่ดิน ลงชื่อเพียงคนเดียวเท่านั้น
เมื่อได้หลักฐานจาก พล.ต.ต.ธารินทร์ ทางมูลนิธิก็ได้ยื่นคำร้องให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ช่วยตรวจสอบ ในวันที่ 29 มกราคม 2561 ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.จนตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบกรณีดังกล่าว
นายมนัส ยืนยันว่าตนและมูลนิธิฯ ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนว่าพระกิตติวุฒโฑ ได้ซื้อที่ไว้ถึง 3,800 ไร่ ทั้งๆ ที่อยู่กับมูลนิธิฯ มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม กว่าจะมาทราบเมื่อปี 2560 จากฝ่าย น.ส.เขมจิรา และพล.ต.ต.ธารินทร์ จึงประชุมกันและเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ยักยอกที่ดินของมูลนิธิมาเป็นของตัวเอง และยืนยันว่าจะต้องติดตามทรัพย์ที่ประชาชนบริจาคด้วยใจบริสุทธิ์คืนกลับมาแน่นอน
ด้าย น.ส.เขมจิรา อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อนำหลักฐานในคดีมามอบให้เพิ่มเติม โดยเป็นข้อมูลที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ค้นหามาตลอด8ปี โดยเฉพาะ คำเบิกความในคดีต่างๆ ทั้งเอกสารของกรมธนารักษ์ หลักฐานการเสียภาษีที่ดิน คำเบิกความของพระที่เคยอยู่ในพื้นที่พิพาทในสมัยที่พระกิตติพุทโธยังมีชีวิตอยู่
น.ส.เขมจิรา กล่าวว่า ไม่ทราบว่าตัวเเทนมูลนิธิฯ จะเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจวันนี้ แต่ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจที่มูลนิธิซึ่งเป็นคู่สัญญาซื้อขายที่ดินกับนายสมพล โกศลานนท์ บรรพบุรุษของตนเอง ไม่เคยเร่งเดินหน้าทวงคืนที่ดินทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ เคยนำหลักฐานมากกว่า 100 หน้า ส่งมอบให้ไปนานแล้ว รวมถึงยังมีอหลายอย่างที่ผิดปกติ เช่น มูลนิธิเคยแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญช่วย คู่กรณี แต่ในคดีที่ตนกับนายบุญช่วย ฟ้องร้องกัน คนของมูลนิธิกลับไปเป็นพยานให้นายบุญช่วย แทนที่จะมาเป็นพยานให้ตนเอง
ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ล่าสุดพล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.ได้สั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาร่วมด้วย โดยกองปราบปรามจะรับผิดชอบการสืบสวนสอบสวน ส่วนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก. ปอศ.) จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) รับผิดชอบตรวจสอบเรื่องที่ดิน นอกจากนี้ ผบช.ก.ยังให้ตรวจสอบที่ดินในพื้นที่ จ.สงขลา 600 ไร่ และ จ.ชลบุรี อีก 1,700 ไร่ ของมูลนิธิฯ ที่ตกไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก ควบคู่ไปด้วย
