กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Watcharapong Kai” เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่มีตำรวจนายหนึ่งลักษณะอยู่ในอาการคล้ายเมาสุรา กำลังขับกระบะตราโล่ของ สภ.พระสมุทรเจดีย์ โดยขับส่ายไปมาบนถนนสาธารณะ ชาวบ้านที่เห็นจึงเข้าพูดคุยกับคนขับรายนี้ว่าไม่เหมาะสม เป็นห่วงว่าผู้อื่นอาจได้รับอันตราย แต่ตำรวจนายดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้เมา และต่อว่าชาวบ้านที่เข้าไปตักเตือนด้วยถ้อยคำหยาบคาย เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงโซเชียล ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่าชายที่ปรากฎในคลิปดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ซึ่งขณะเกิดเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 60 ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ได้รับแจ้งเหตุมีรถบรรทุกทำดินตกหล่นแถวถนนวัดใหญ่-คู่สร้าง ระหว่างขับรถออกตรวจอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นมีชายขับรถจักรยานยนต์ตามถ่ายคลิป จึงจอดรถข้างทางแล้วลงไปถามด้วยความโมโหและใช้คำพูดไม่สุภาพว่า “มึงตามถ่ายคลิปกูมาทำไม” และชายคนที่ตามถ่ายยังหาว่าตำรวจขับรถเมาสุรา
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวยอมรับว่าพูดจาไม่สุภาพกับประชาชนเพราะความโมโห และยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ที่ชายคนดังกล่าวเห็นน่าจะเข้าใจผิดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว ตื่นมาทำงานตั้งแต่ 05.00 น. และมีอาการเป็นไข้หวัด จึงได้ทานยาไข้หวัด ทำให้มีอาการง่วง อ่อนเพลีย
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่ามีข้อบกพร่อง ลุแก่อำนาจเกินกว่าที่กรอบกฎหมายให้ไว้ ก็จะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม โดยมีการไล่โทษไปตั้งแต่สถานเบา จนถึงสถานหนัก คือไล่ออก หากความผิดปรากฎชัดเจน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี
พร้อมกันนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักของกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ลุแก่อำนาจ ไม่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง และให้ปฏิบัติตามหลักอุดมคติ 9 ประการ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฎิบัติหน้าที่ด้วยกิริยาวาจาที่สุภาพ มีวินัย การเป็นตำรวจต้องเป็นตลอด 24 ชม. พร้อมทั้งสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วน ผู้บังคับการ ผู้กำกับ หน.หน่วยในทุกต้นสังกัดทุกพื้นที่ ให้มีการควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการกวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายระมัดระวังกิริยามารยาท ในการแสดงออกและขอเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย อย่าลุแก่อำนาจที่ตนมี หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบกระทำด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่าได้กระทำผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด
