ตำรวจดส.จับขบวนการขนยาบ้าพร้อมของกลางล็อตใหญ่

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. แถลง พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. จับกุม นายสุริยา คิมนาลักษณ์ อายุ 38 ปี นายนิเวศน์ วิริยา อายุ 22 ปี น.ส.อ้อยใจ นามเสนาะ อายุ 41 ปี ได้ที่บริเวณหน้าโกดังสินค้าเลขที่ 25/29 หมู่ 14 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ลายการ์ตูน จำนวน 4 ห่อใหญ่ ภายในมียาบ้าบรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีเหลือง ประทับตรา 999 และแอปเปิ้ล สีน้ำเงิน รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 1,200,000 เม็ด รถยนต์ตู้โตโยต้า ทะเบียน นข 6336 ลำปาง รถยนต์กะบะอีซุซุ ทะเบียน บห 8458 ราชบุรี

พ.ต.อ.จิรกฤต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจับกุมนายอาทิตย์หรือ อาท ชื่นตา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมของกลางยาไอซ์ 150 กิโลกรัม และจับกุมนายกิติพงษ์ หรือโม ขจัดภัย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางยาไอซ์ 132 กก. และยาเคตามีน 5 กก. จากนั้นสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวและเฝ้าติดตามพฤติกรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมาจากทางภาคเหนือโดยมีนายสุริยา นายนิเวศน์ น.ส.อ้อยใจ เป็นคนนำยาเสพติดดังกล่าวมาจำหน่าย
“โดยคนรับผิดชอบแต่ละขั้นตอนจะไม่มีใครทราบแต่ทุกขั้นตอนจะมีนายมินอ่อง ชาวพม่า เป็นผู้สั่งการนายสายันต์ สงวนนามสกุล เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือสั่งการให้ทั้ง 3 คนนำยาเสพติดไปขาย และนายเสกสรร สงวนนามสกุล เป็นผู้เช่าโกดังสินค้าเลขที่ 25/29 หมู่ 14 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งทั้ง 2 คนไหวตัวทันหลบหนีการจับกุม นายนิเวศน์จะเป็นผู้นำยาเสพติดไปขาย โดยให้นายนายสุริยาและน.ส.อ้อยใจ ออกไปนำรถของลูกค้าขับมาที่โกดังเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดโดยตัดตอนไม่ให้ลูกค้ารู้ที่ซ่อนยาเสพติด แล้วขับไปส่งให้ลูกค้าจำหน่ายยาเสพติดย่านปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร จึงได้สามารถตรวจยึดยาเสพติด 1.2 ล้านเม็ด ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นเบาะรถตู้ที่ถูกดัดแปลงเป็นช่องใส่ยาเสพติด และรถตู้ 2 คัน” ผกก.ดส. กล่าว

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยทั้ง 3 คน รับค้าจ้างในการจัดส่งยาเสพติดให้ครั้งละ 50,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวมีการติดต่อสื่อสารกับนายมินอ่องว่าแต่ละขั้นตอนในการขนส่งยาไปถึงจำหน่ายเสพติดดำเนินการเป็นอย่างไร โดยนายนิเวศน์ถูกนายมินอ่องชักชวนมาค้ายาเสพติดดังกล่าวหลังไปพบกันที่บ่อนพนันฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจึงมาทำงานรับจ้างค้าขายเสพติดดังกล่าวเพื่อแลกเงินเล่นการพนัน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image