เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.อรรณพ รัตนอุบล พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป.แถลงจับกุม น.ส.ณัฎฐณิชชา อุดมวัฒน์ทินโชติ อายุ 37 ปี ชาวจ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1088/2554 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ข้อหาโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง และฉ้อโกงประชาชน จับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่เฟสติวัล ต.หางดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากผู้ต้องหา ได้โฆษณาชวนเชื่อผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเป็นพนักงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีญาติเป็นผู้ใหญ่ระดับผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้ สามารถจัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติเกือบครึ่งราคา โดยมีแพคเกจพร้อมที่พัก แต่มีตั๋วเครื่องบินดังกล่าวอยู่ในจำนวนไม่มากนัก หากผู้ใดสนใจให้รีบติดต่อสั่งจองตั๋วเครื่องบินและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาโดยเร็ว อย่างไรก็ดี สำหรับตั๋วเครื่องบินนั้นได้จะรับในช่วงที่ใกล้จะถึงวันเดินทางเท่านั้น
พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า หลังจากมีเหยื่อหลงเชื่อติดต่อสั่งซื้อและโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปให้กับผู้ต้องหาแล้ว กลับไม่ได้รับตั๋วและไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ตามที่มีการกล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด โดยเกิดความเสียหายขึ้นแล้วกว่า 10 ล้านบาท ต่อมาทางกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไว้ที่ บก.ปคบ.กระทั่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ จากนั้นทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ ต.หางดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงวางแผนติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงและไม่ได้เป็นพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด โดยมีอาชีพขายสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้ซื้อตั๋วเครื่องบินดังกล่าวนั้น ตนทำเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ร่วมกับใคร ส่วนเงินที่ได้มาจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนนำไปซื้อตั๋วเครื่องบินจริงเพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ดี ในส่วนของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงนั้นตนได้คืนเงินให้ไปแล้วบางส่วน จึงอยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้ง เคยถูกจับกุมดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้วบางคดี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่ายังมีหมายจับติดตัวอยู่อีก 5 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ จ.14/2554 ลงวันที่ 26 มกราคม 2554 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์, ศาลแขวงนนทบุรี ที่ จ.60/2554 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหายักยอกทรัพย์, ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.335/2554 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ข้อหายักยอกทรัพย์, ศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.101/2559 ลงวันที่ 1 เมษายน 2559 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.185/2559 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
