เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเด็กช่างกลฯ ชั้นปีที่ 1 ย่านบางพลัด ถูกคู่อริต่างสถาบันไล่ฟันที่บริเวณใกล้กับแยกติวานนท์ ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งต่อมาพ่อแม่กลัวเกิดเหตุซ้ำอีก อยากให้ลาออกจากโรงเรียน ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองนนทบุรี ว่า เมื่อวันที่ 2 มกราคม เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้เสียหายได้พานายบอส อายุ 17 ปี (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน โดยนายบอส แจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 เวลา 09.35 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากโรงเรียน โดยมีเพื่อนซ้อนท้ายไปด้วย ต่อมาได้มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับไล่ตามมาจนถึงแยกติวานนท์ รถของตนเสียหลักล้มลง กลุ่มคู่อริเข้ามารุมฟันตน โดยเพื่อนของตนที่ซ้อนท้ายมาด้วยนั้น ได้วิ่งหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเส้นเอ็นขาด กระดูกแขนหัก 3 ท่อน ต่อมาได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล (รพ.) พระนั่งเกล้า ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลังจากเกิดเหตุได้ขับรถหลบหนีไป
“พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกการตรวจสถานที่ทำแผนที่พอสังเขป โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตรวจสอบภาพวงจรปิดที่คนร้ายใช้หลบหนี จนสามารถพิสูจน์ทราบ ผู้ที่ก่อเหตุ และได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี จำนวน 1 ราย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันควร โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนจะเร่งติดตาม จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รองโฆษก ตร. กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตรการป้องกันเหตุดังกล่าว โดยจัดการประชุมหามาตรการป้องกันร่วมกับอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา พร้อมทั้งให้โรงเรียนหามาตรการลงโทษเด็กเยาวชนที่ก่อเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอีก ขณะเดียวกัน เน้นย้ำฝ่ายป้องกันปราบปรามได้ปรับแผนการตรวจเพื่อป้องกันเหตุ และให้ตำรวจชุดมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่เพื่อหาทางป้องกันอีกทางหนึ่ง แสวงหาช่องทางในการแจ้งเหตุระหว่างตำรวจและโรงเรียนโดยตรง พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนหาข่าวในเชิงลึกเพื่อป้องกันเหตุต่อไป
“อย่างไรก็ตาม ขอเตือนไปยังเยาวชนอย่ากระทำการด้วยความคึกคะนอง ใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา เพราะผิดกฎหมายบ้านเมือง จะส่งผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัว และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม ควรรู้จักอดทนอดกลั้น ใช้การพูดคุยปรับความเข้าใจกันและหาทางออกของปัญหาอย่างสันติวิธี โดยที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้ตำรวจทั่วประเทศยึดแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 30/2559 ในการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของเยาวชนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองเด็กและเยาวชนช่วยดูแล พูดคุยกับบุตรหลานให้ทราบถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่สถานศึกษาควรจัดกิจกรรม เร่งรัด ป้องกันไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทอีกทั้งยังได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย โดยเน้นการตรวจค้น จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
