รวบหนุ่มลพบุรี ลอบขนกัญชา 1,030 กก. สารภาพได้ค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่น

ตำรวจทางหลวงรวบหนุ่มลพบุรี ลักลอบขนกัญชา 1,030 กก. ใส่ในรถขนปุ๋ยคอก สารภาพทำมาแล้วหลายครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ม.ค.2563 ที่สถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น ( สทล.2 กก.4 บก.ทล.) พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ ผกก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ต.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. แถลงข่าวผลการจับกุม นายรักชาติ อายุ 33 ปี ชาวลพบุรี พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 26 ถุง น้ำหนักรวม 1,030 กก. รถยนต์กระบะ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอนแก่น จับกุมตัวได้ ขณะขับรถย้อนศรหลบหนีการตรวจค้นของตำรวจทางหลวง ที่ทำการตั้งจุดตรวจที่ กม.360-361 ถ.มิตรภาพ ฝั่งขาเข้า ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.อภิชาต โพธิ์จันทร์ ผกก.4 บก.ทล. กล่าวว่า ของกลางกัญชาทั้งหมดนั้น หน้าถุงจะมีอักษรตัว A ซึ่งแสดงถึงการเป็นกัญชาเกรดเอที่เป็นที่รู้กันของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าของกลางกัญชาทั้งหมดนั้นรับมาจากนายตั้ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยนัดรับมอบสินค้ากันที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา

โดยนายตั้มนั้นได้สั่งให้ผู้ต้องหาขับรถมาตามจุดนัดหมายคือก่อนถึง อ.โพนพิสัย 33 กม.โดยมีรถกระบะสภาพเก่า นำกัญชามาขนถ่ายใส่ปะปนไปกับปุ๋ยคอกที่เตรียมมาเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่ จ.สตูล โดยมีรถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนท์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นรถนำทางเพื่อสำรวจจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีจุดใดบ้าง จนกระทั่งมาถึงจุดตรวจดังกล่าวรถนำทางได้แจ้งว่ามีจุดตรวจ ผู้ต้องหาจึงหยุดรถและขับรถย้อนศร เพื่อหลบหนีการตรวจค้น แต่กำลังตำรวจทางหลวงที่วางกำลังก่อนถึงจุดตรวจตรวจพบความผิดสังเกตุ จึงสกัดจับกุมก่อนพบผู้ต้องหาขับรถมาเพียงลำพังคนเดียว จึงทำการตรวจค้นและพบกัญชาอัดแท่ง ทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ท้ายรถกระบะโดยมีกระสอบปุ๋ยคอกวางทับและมีผ้ายางสีเทาคลุมปิดทับอีกชั้น

“ผู้ต้องหานั้นได้ลักลอบรับจางขนกัญชามาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดยใช้พฤติกรรมเดียวกันในการตบตาการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่คือการใช้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวทำทีลักลอบขนปุ๋ยคอกส่งจำหน่ายทั่วทั้งประเทศ แต่ก็นะมาลักลอบขนกัญชาอัดแท่งที่ จ.หนองคายเพื่อนำส่งให้กับลูกค้าที่ จ.สตูล โดยหวังว่าปุ๋ยคอกนั้นจะกลบกลิ่นของกัญชาที่ลักลอบขนครั้งละหลายกิโลกรัมได้ ซึ่งแม้ว่าจะพยายามปะปนกันระหว่างกัญชาและปุ๋ยคอกแต่ก็ไม่รอดพ้นการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของเราไปได้”

Advertisement

พ.ต.อ.อภิชาต กล่าวต่ออีกว่า กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวมักจะใช้รถยนต์กระบะที่ติดโครงเหล็กหลังคาสูงเพื่อที่จะปะปนกันระหว่างสินค้ากับยาเสพติด ดังนั้นการทำงานของตำรวจทางหลวงในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนจะต้องรัดกุมและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จากการจับกุมตัวนายรักชาติ ได้มีการซัดทอดและให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป

หลังการสอบปากคำแล้ว จึงตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดประเภทที่ 5 กัญชา ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image