ผบ.ตร.บินด่วนมาประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างที่เกี่ยวข้องกับคดีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในห้างกลางเมืองลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนยิงผู้ที่อยู่ในจุดที่เกิดเหตุเสียชีวิต 3 รายได้รับบาดเจ็บ 4 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 12 มกราคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ของ สตช. มายัง จ.ลพบุรี อีกครั้ง โดยมาลงที่สนามกีฬาพระราเมศวร อ.เมือง จ.ลพบุรี หลังจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม ได้เดินทางมาติดตามคดีชิงทอง โดยมี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และนายตำรวจระดับสูง ให้การต้อนรับ พร้อมเรียกทีมสืบสวน และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เข้าร่วมประชุมที่ชั้น 3 ของสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี
แหล่งข่าวนายตำรวจระดับสูง (สงวนชื่อและตำแหน่ง) เผยว่าในการประชุมใช้เวลาราว 1 ชม. เบื้องต้นในการเดินทางมาติดตามคดีอีกครั้งนั้น หลังจากที่ได้ติดตามหาข่าวและตรวจสอบข้อมูลของทีมสืบสวนตามสถานที่ต่างๆ น่าจะมีข่าวการล็อคเป้าหมายผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างสันทัด ความสูงประมาณ 165 -168 ซม.คาดว่าเป็นทหารนอกราชการที่ได้รับการฝึกใช้อาวุธปืนพกสั้นและยุทธวิธี อย่างคล่องแคล่วหลังจากที่เลิกประชุมได้ให้ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร เป็นผู้ที่การในการดำเนินการแก่สื่อมวลชนได้รับทราบ
ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร เผยว่า ตั้งแต่นี้ไป คงให้ข้อมูลเท่าที่ได้เพราะสื่อนำข้อมูลไปลงจนเกิดความเสียหายต่อรูปคดี ทุกคนทำงานเหนื่อย สื่อนำไปลงไม่ได้คำนึงถึงจิตใจของผู้เสียหาย ซึ่งความคืบหน้าได้บอกกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้แล้ว ที่ ผบ.ตร.มาในวันนี้ เราได้รายงานความคืบหน้า ตามที่เข้าใจกัน ส่วนที่เพิ่มเติมทั้งการจำกัดลงแคบ ทั้งเส้นทาง ยานพาหนะ อาวุธ และอุปกรณ์ที่ใช้ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการล็อคเป้านั้น ยังไม่มีกระแสข่าว เราอยากจะจับให้ได้ภายใน 1 นาที แต่คนร้ายไม่ได้อยู่ในร้านสะดวกซื้อ ที่เราจะไปหาได้ง่ายๆ คนที่ปล่อยข่าวเป็นยังไงไม่รู้ ซึ่งตนไม่ได้หนักใจเรื่องคดี แต่หนักใจคนปล่อยข่าว
ส่วนข้อมูลที่มีประชาชนส่งให้มา ให้เบาะแสพอสมควร เราต้องสกรีนและจัดทีมติดตามขยายผลจากเบาะแส เราจะฟังทั้งหมดไม่ได้ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ประชาชนส่งเบาะแสให้มา สำหรับ ผบ.ตร.ท่านมาติดตามความคืบหน้าและให้กำลังใจแก่ทีมและกำชับประเด็นทางคดี ซึ่งตนเองไม่สามารถพูดได้
