เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีลักลอบขนขยะมาทิ้งที่โรงกำจัดขยะหนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายชาตรี กล่าวว่า ได้นำหลักฐานข้อมูลการนำเข้าและส่งออกขยะไปบ่อฝังกลบ และหลักฐานอื่นมาประกอบการพิจารณาคดี เพื่อขอให้ตำรวจกองปราบ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงและสืบสวนหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่ามีบุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการกระทำผิดบ้าง เช่น บริษัทเอกชนที่ว่าจ้างรถขยะให้นำขยะลักลอบมาทิ้ง รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ อบต. ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีข้อมูลผู้กระทำผิดที่พบเพียง 9 คน เป็นคนที่ขับรถนำขยะลักลอบเข้าไปทิ้ง ส่วนที่คนขับรถอ้างว่ารับจ้างนำขยะไปทิ้งมานานกว่า 4-5 ปี เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่นำไปตรวจสอบเปรียบเทียบ เนื่องจากการคำนวนว่าจะมีความเสียหายจำนวนเท่าใดนั้น มีหลายปัจจัยต้องนำมาพิจารณา เช่น ขยะที่รับเข้ามาและส่งออก มีขยะรีไซเคิลมากน้อยเพียงใด , น้ำหนักที่เกิดจากปริมาณน้ำ หรือน้ำฝน ซึ่งหากดูแค่ตัวเลขย้อนหลังในช่วงที่ผู้กระทำผิดอ้าง จะไม่พบตัวเลขของความเสียหาย เพราะตัวเลขที่มีการรายงานใกล้เคียงกันมาก
นายชาตรี กล่าวว่า จากนี้ยังต้องรอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครว่ามีใครต้องถูกดำเนินคดีบ้าง และเชื่อว่าเมื่อตรวจพบข้อเท็จจริงดังกล่าว จังหวัดสมุทรสาคร ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องรอฟังผลจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากกรุงเทพมหานครก่อน ส่วนที่มาร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ไม่ได้แจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันหลายจังหวัด และกองปราบมีอำนาจในการสืบสวนข้อเท็จจริงได้
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ได้ตรวจสอบเอกสารของกรุงเทพมหานคร ก่อนนำเรียนผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
