‘ไบรท์’ สะอื้นเอ่ย ‘พี่ยุทธ’ สู้คดีเต็มที่ ไม่คิดหนี รักงานข่าว เสียใจทุกครั้งเปิดทีวีเห็นรายการตัวเอง(คลิป)

‘ไบรท์’ สะอื้นเอ่ย ‘พี่ยุทธ’ สู้คดีเต็มที่ ไม่เคยคิดหลบหนี เผยรักงานข่าว เสียใจทุกครั้งที่เปิดทีวีเห็นรายการตัวเอง ‘โก๊ะตี๋’ ยัน ‘สรยุทธ’ กำลังใจดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องด่วน! ศาลฎีกา แก้คำพิพากษา คุก”สรยุทธ” คดีไร่ส้ม 6 ปี 24 เดือน

ภายหลัง น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือไบรท์ พร้อม นายภาษิต อภิญญาวาท หรือไก่ และนายเจริญพร อ่อนละม้าย หรือโก๊ะตี๋ ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจนายสรยุทธ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดย น.ส.พิชญทัฬห์กล่าวว่า พวกเราให้กำลังใจนายสรยุทธ หรือพี่ยุทธ ในการต่อสู้คดีมาโดยตลอด ทุกคนที่ทำงานทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังก็คอยให้กำลังใจด้วย เรารู้สึกเสียใจและตัวนายสรยุทธก็เสียใจมากเช่นกัน เราเห็นใจที่นายสรยุทธต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองไม่เคยมีพฤติกรรมไปเบียดบังเวลาของ อสมท อย่างที่ทุกคนเข้าใจ สิ่งที่พยายามต่อสู้คือในข้อเท็จจริง ทั้ง 2 ฝ่ายคือไร่ส้มและ อสมท ต่างฝ่ายต่างก็มีโฆษณาเกินในลักษณะของไทม์แชร์ริ่งตามข้อตกลงเรื่องการแบ่งโฆษณาลักษณะ 50-50 เมื่อ อสมท โฆษณาเกินก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนข้อตกลง ซึ่งนายสรยุทธได้พยายามต่อสู้ในประเด็นนี้

น.ส.พิชญทัฬห์กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายสรยุทธเจ็บปวดมาตลอด คือการถูกกล่าวหาว่าไปเบียดบังเวลาของ อสมท ซึ่งนายสรยุทธได้ต่อสู้ว่าในรายการคุยคุ้ยข่าวมีโฆษณาทั้งหมดอยู่ 10 นาที แบ่งเป็น ไร่ส้ม 5 นาที ส่วน อสมท 5 นาที ไม่ใช่ลักษณะที่ อสมท ขายโฆษณาได้ 2 นาที แล้วไร่ส้มไปใช้เวลาที่เหลืออีก 3 นาทีของ อสมท มาใช้ ซึ่งก็เป็นข้อต่อสู้ของนายสรยุทธใช้ในชั้นศาล ว่าโฆษณาที่เกินของไร่ส้ม มูลค่า 138 ล้านบาท ขณะที่ของ อสมท ประมาณ 237 ล้านบาท นอกจากนี้ เรารู้สึกสงสารนายสรยุทธที่พยายามต่อสู้ว่าโฆษณาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้พยายามปกปิด เพราะเรื่องนี้ไม่สามารถปกปิดได้ หากมีโฆษณาเกินเพียง 1-2 วัน ก็จะถูกตรวจสอบพบ

น.ส.พิชญทัฬห์กล่าวด้วยว่า กรณีโฆษณาเกินของบริษัทไร่ส้ม มีการส่งคิวโฆษณาที่เกินอย่างเปิดเผย และมีการเกินต่อเนื่อง 500 กว่าวัน ดังนั้น นายสรยุทธก็ต่อสู้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิด หรือผู้บริหาร อสมท จะไม่ทราบ หรือเจ้าหน้าที่ธุรการเพียงคนเดียวสามารถปกปิดได้ ซึ่งตามกระบวนการขั้นตอนส่งคิวโฆษณาก็จะมีระบบการตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องเช็ค 6 ฉบับ นายสรยุทธพยายามต่อสู้ว่า เช็คที่สั่งจ่ายแต่ละฉบับมีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งเป็นการจ่ายที่นายสรยุทธชี้แจง คือจำนวนเงินไม่สัมพันธ์กับจำนวนเวลาโฆษณาที่เกิน และเป็นการจ่ายลักษณะหักภาษี ณ ที่จ่าย ถ้าจะกระทำการทุจริตจริงๆ จะทำแบบนี้ทำไม โดยชี้แจงต่อศาลว่า เป็นการจ่ายค่าช่วยประสานงานด้านการตลาด ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการปกปิด ตนรู้สึกดีใจที่ล่าสุดทางคณะกรรมาธิการ สนช.เข้าใจว่าคดีไร่ส้มที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะของไทม์แชร์ริ่ง หรือแชร์โฆษณากัน อย่างน้อยก็มีหลายคนที่เข้าใจในประเด็นที่นายสรยุทธพยายามต่อสู้

Advertisement

น.ส.พิชญทัฬห์กล่าวต่อว่า ในฐานะเพื่อนร่วมงานกันและคนใกล้ชิด ตนรู้สึกเสียใจ เห็นใจ และเสียดาย เพราะนายสรยุทธเป็นคนตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตัวเองและคนดู ซึ่งเป็นสิ่งที่นายสรยุทธสอนพวกเรามาโดยตลอดว่าเราต้องรับผิดชอบต่อคนดู โดยนายสรยุทธรักอาชีพนี้มาก หากว่าพวกเราจะได้เห็นน้ำตาของนายสรยุทธก็คือทุกครั้งที่นายสรยุทธเสียใจที่ต้องหยุดทำงานข่าว เพราะการทำงานเป็นชีวิตของนายสรยุทธ บางครั้งประโยคที่พวกเราได้ยินบ่อยๆ คือ “น้องรู้มั้ย บางทีพี่ไม่อยากจะเปิดทีวีดูเลย เพราะพี่ไม่อยากเห็นรายการที่ตัวเองเคยทำ” ซึ่งนายสรยุทธได้พูดกับตนว่า เมื่อเราต่อสู้ดีที่สุดแล้วก็ต้องเคารพกติกา ในเมื่อเราต่อสู้แล้ว ศาลตัดสินแล้ว เราก็ต้องอยู่ในกติกา และที่นายสรยุทธยืนยันมาตลอด คือ ไม่คิดที่จะหลบหนี เพราะฉะนั้น ในวันนี้นายสรยุทธมาศาล จึงได้แสดงให้เห็นแล้วว่าได้ทำตามที่พูดไว้ ตยยืนยันว่านายสรยุทธมีกำลังใจดี

ด้านนายเจริญพร อ่อนละม้าย หรือโก๊ะตี๋ อารามบอย ได้ให้ข้อมูลว่า นายสรยุทธเคยกล่าวกับตนไว้ว่าวันที่ไม่ได้ทำงานข่าวคือวันที่เขารู้เสียใจมากที่สุด นายสรยุทธเป็นคนที่รักในงานข่าวมาก ความสุขของเขาคือการเล่าข่าวว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ตนเคยถามเรื่องแนวทางคดีกับนายสรยุทธเช่นกัน ซึ่งนายสรยุทธก็ตอบว่าไม่คิดหนีไปไหน นี่เป็นแผ่นดินพ่อแม่ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและสู้เท่าที่เรามีข้อมูลอยู่ และนายสรยุทธได้ทำตามคำพูดเข้าต่อสู้ตามแนวทางกฎหมายและยอมรับในคำตัดสิน ไม่ว่าจะเกิดเช่นไร หากต้องติดคุกก็ติดไป เดี๋ยวออกมา ไม่ได้ตายจากไปไหน ตนเชื่อว่านายสรยุทธมีกำลังใจดีมากเพราะเป็นคนที่ให้กำลังใจคนอื่นและให้กำลังใจตัวเองได้เป็นอย่างดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image