‘มาฆบูชา’ สั่งปูพรมร้านลาบ-ข้าวต้มโต้รุ่ง-โอเกะห้ามขายเหล้า ส่วน ‘วาเลนไทน์’ กวดขันผับ ม่านรูด สวนสาธารณะเข้ม!

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้มีวิทยุคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0007.22/214 ถึง ผบช.น., ภ.1-9, ก.,ทท., สตม., ปส., และ สพฐ.ตร., หน.สปก.ตร., ผบก.สท.และโฆษก ตร. เรื่องการบังคับใช้กฎหมายในวันสำคัญทางศาสนา และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในวันมาฆบูชา (8 กุมภาพันธ์) และวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) ประจำปี 2563 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงกำชับให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการ ดังนี้

วันมาฆบูชา (8 กุมภาพันธ์) ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดที่ฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักรตลอด 24 ชั่วโมง คือหลังเวลา 24.00 น.ของคืนวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ จนถึงเวลา 24.00 น.ของคืนวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ยกเว้นให้ขายได้เฉพาะร้านค้าปลอดภาษีอากรในอาคารท่าอาศยานนานาชาติ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ คือระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างเด็ดขาด เมื่อปรากฏเป็นความผิดชัดเจนในเรื่องการจำหน่าย การดื่มในสถานที่ห้ามและจำหน่ายให้บุคคลที่ห้ามจำหน่าย เน้นการตรวจตราร้านข้าวต้มโต้รุ่ง คาราโอเกะ ร้านลาบส้มตำ ร้านอาหารตามสั่งริมทาง บริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง วัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ และท่าเรือโดยสารสาธารณะอย่างจริงจัง, ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด บริเวณถนนสายหลักที่เป็นที่ตั้งสถานบริการหรือสถานประกอบการฯ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนเวลา 24.00 น. และตั้งจุดวัดแอลกอฮอล์บนเส้นทางที่เหมาะสมหลังเวลา 24.00 น. หากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้สอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมผู้จำหน่ายสุราที่ฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง

วันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) จัดทำมาตรการเชิงรุกในการรักษาความปลอดภัย โดยเน้นการดำเนินการในพื้นที่ล่อแหลมหรือเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม การคุกคามทางเพศ ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด สวนสาธารณะ แหล่งมั่วสุมหรือที่ชุมนุมของเด็กและเยาวชน, ปรับแผนการตรวจเน้นช่วงเวลากลางคืน โดยจัดกำลังให้เหมาะสม รวมทั้งตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ วัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง อาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย มุ่งเน้นถนนสายหลักที่เป็นที่ตั้งสถานบริการ, ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเส้นทางที่เหมาะสมหลัง 24.00 น. และบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด หากพบมีการกระทำผิดให้ขยายผลเพื่อจับกุมผู้ที่จำหน่ายสุราโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ให้สายตรวจออกตรวจตราบุคคลกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีพฤติการณ์หรือแนวโน้มที่อาจก่ออาชญากรรม หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น การแสดงความรักต่อกันในที่สาธารณะ การแข่งรถในทาง การใช้บริการในสถานบริการ สถานบันเทิง ร้านอินเตอร์เน็ต หรือโรงแรมม่านรูด, เข้มงวดกวดขันสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสถานบริการ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 โดยเคร่งครัด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ไม่จำหน่ายสุราให้เยาวชน รวมถึงการมั่วสุมยาเสพติด การแสดงลามกอนาจาร หรือการแสดงที่ไม่เหมาะสมขัดต่อศีลธรรมอันดี ทั้งนี้ หากตรวจพบสถานบริการที่มีการปล่อยปละละเลยให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image