ผบ.ตร.ยกผู้ร่วมปฏิบัติการคือ ‘ฮีโร่’ ดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ สลักชื่อ 2 วีรบุรุษอนุสาวรีย์พิทักษ์รับใช้ปชช.(คลิป)

ผบ.ตร.ย้ำ ทุกคนที่ร่วมปฏิบัติการคือ ‘ฮีโร่’ พร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ญาติผู้ตายเต็มที่ ด้าน บช.น. เตรียมสลักชื่อ 2 วีรบุรุษลงบนอนุสาวรีย์พิทักษ์รับใช้ประชาชน

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. ที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้เสียชีวิต ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะให้สิทธิทุกอย่างที่สามารถให้ได้อย่างเต็มที่ ขณะนี้ทางญาติยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใด เนื่องจากยังอยู่ในภาวะโศกเศร้า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราสูญเสียคนที่มีความสามารถ และเป็นบุคลากรที่ดี เป็นปกติของผู้บังคับบัญชาที่จะต้องเสียใจ หลังจากนี้ ได้สั่งการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่เรายังขาดไป และรายงานผลให้ตนทราบภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โลกโซเชียลมีการยกย่อง ผบ.ตร. ให้เป็นฮีโร่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร ทุกคนที่ร่วมปฏิบัติงานเป็นฮีโร่หมด ไม่ใช่ตนคนเดียว และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ภาครัฐ ภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติการครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า จะมีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับผู้ที่จะมีพฤติกรรมเลียนแบบ ก่อเหตุลักษณะแบบนี้ หรือไม่อย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมืออย่าไปลอกเลียนแบบในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวว่า สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผบ.หมวด (สบ 1) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. และด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. เป็นความภาคภูมิใจของ บช.น. มีความกล้าหาญในสถานการณ์ที่อันตราย เสียสละและถือเป็นแบบอย่างดีของตำรวจนครบาล เมื่อเขาได้รับคำสั่งให้ไประงับเหตุจับกุม เขารู้อยู่แล้วว่ามีโอกาสที่จะได้รับอันตราย แต่เขายังปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้เป็นแบบอย่าง ถือว่าเขาทำหน้าที่สมกับการเป็นตำรวจ เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ขณะที่เกิดเหตุต้องยอมรับว่าเขาอุทิศตน เสียสละ และกล้าหาญ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ใครก็ทำได้ อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นพิธีต่างๆ ทาง บช.น. จะสลักชื่อ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายไว้ที่อนุสาวรีย์พิทักษ์รับใช้ประชาชน ซึ่งอนุสาวรีย์ดังกล่าวสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ทราบว่าคือผู้เสียสละ ปกป้องประชาชน พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวอีกว่า ด้านสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น จะมีการเสนอทายาทขึ้นเป็นตำรวจต่อไป ส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับทางราชการจะได้เงินจำนวน 2,500,000 บาท และผู้มีจิตศรัทธาประชาชนยินดีที่จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ส่วนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจะเสียขวัญหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ทำให้ตำรวจนครบาลเสียขวัญแต่อย่างใด ตัวอย่างของ 2 นาย เป็นตัวอย่างของข้าราชการตำรวจนครบาลที่ต้องยึดถือต่อไป ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์นั้น ทางบช.น.ได้มีการดูแลเป็นอย่างดี ส่วนการปฏิบัติหน้าที่นั้นยึดตามหลักสากล เนื่องจากใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน โดยมีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกให้ดีที่สุดในการจัดการปัญหาดังกล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 08.00 น. ญาติของ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา จะนำร่างกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.เชียงราย เดินทางโดยใช้เครื่องบินตำรวจ จาก บน.6 (ดอนเมือง) และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ส่วน ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย จะตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดตรีทศเทพฯ และมีกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงวันที่ 16 กุมภาพันธ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image