สธ.ลิ้งค์ตม.ข้อมูลคนเข้า-ออกไทย สกัดพวกปกปิดเดินทางไปประเทศเสี่ยง กันโควิด-19

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อม พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.และ นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงการดำเนินการเฝ้าระวังเชื้อไวรัส “โควิด 19”

พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประชุมร่วมกับกรมควบคุมโรค และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลถึงการติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่าจากปัญหาที่พบเรื่องการปกปิดข้อมูลการเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 19 ประเทศ จึงต้องพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปสู่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในการป้องกันการปกปิดข้อมูลของผู้เดินทางเข้ามา ทั้งนี้จะดำเนินการตรวจสอบระบบภายในวันนี้ว่าจะมีประสิทธิภาพเชื่อมโยงข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด และจะใช้ระบบนี้อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้(28 ก.พ.) จึงขอให้มั่นใจถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น เเละกวางโจว ประเทศจีน เข้ามายังประเทศไทย เเละยังไม่ได้กลับออกไป มีทั้งสิ้น 1,765 คน ทางกระทรวงสาธารณสุข และ สตม.ได้นำเเพทย์เเละเจ้าหน้าที่ไปตรวจร่างกายเเล้ว ยืนยันได้ว่าทั้งหมดปลอดเชื้อไวรัสดังกล่าว ส่วนคนจีนจากเมืองอื่นๆ ที่ยังคงอยู่ในประเทศไทย ก็พ้นระยะการฟักตัวแล้ว ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ยืนยันปลอดภัย ซึ่งสาเหตุที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ยังไม่เดินทางกลับประเทศ เพราะเกรงว่าหากกลับไปอาจจะติดเชื้อไวรัส ดังกล่าว

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อ ที่ผ่านมาทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ยกเว้นค่าปรับ กรณีอยู่เกินกำหนดสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองและปิดสนามบินในเมือง เมืองอู่ฮั่น เมืองหวงกัน และเมืองอี้โจว จนเป็นเหตุให้คนต่างด้าวที่เดินทางมาจากเมืองดังกล่าวไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองต้นทางได้ สำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง ได้ยกเว้นไม่ทำการเปรียบเทียบปรับการอยู่เกินกำหนดอนุญาต หรือโอเวอร์สเตย์

ส่วนผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศอื่นๆ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว หากไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ให้ติดต่อขอหนังสือรับรองจากสถานทูต หรือสถานกงศุลของประเทศต้นทางในประเทศไทย เพื่อรับรอง พร้อมระบุสาเหตุว่ามีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในประเทศไทยอีก และอยู่ต่อได้อีกไม่เกินครั้งละ 30 วัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของทางสตม.ที่จะกระทำได้ และตนจะกำกับหัวหน้าสถานีในเรื่องมาตรการนี้ต่อไป

Advertisement

ด้านนายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การใช้ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกัน เเละป้องกันการแพร่ระบาดขั้นเฟส 3 ในอนาคต ทำให้การรักษาและการควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนจะได้รับการดูเเลอย่างใกล้ชิด เฝ้าสังเกตอาการอย่างมีประสิทธิภาพ และในอนาคตจะมีการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลเป็นแอพลิเคชั่น เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ยืนยันว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลบุคคลทั้งหมด เป็นความลับ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image