เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.ธำรงศ์ วงศ์วรเนตร หัวหน้าชุดปฏิบัติการมวลชนสัมพันธ์ กองพันพัฒนาที่ 3 พล.ต.ต.พงษ์สักก์ เชื้อสมบูรณ์ พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ผอ. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวิจัย เพ็ญพัฒนากุล ปลัดอำเภอฮอด นายจิรายุ งอกงาม นายก อบต.บ่อสลี นายสว่าง ยืนยงคีรีมาส กำนัน ต.บ่อสลี นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่) นายธนภณ ไชยรส เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 29 (กิ่วลม) นายศุภชัย สงชู นิติกรชำนาญการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นายนิกร ปรมาง และนายปิยะ ภิญไพ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ฮอด ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน อ.ฮอด และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 4 จุด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จุดแรก วัดบ้านขุน เลขที่ 129 หมู่ 3 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 72 ไร่ มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย 32 ไร่ พบสิ่งก่อสร้าง18หลัง จุดที่2 วัดพระธาตุกองลอย เลขที่ 256 หมู่ 4 ต.บ่อสลี อ.ฮอด เนื้อที่ 6 ไร่ มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย 2 ไร่ ภายในมีอาคาร6หลัง ถังน้ำแสตนเลส และพระพุทธรูป5องค์ จุดที่3วัดแม่ลายเตียนอาง เลขที่ 222 หมู่10 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด เนื้อที่29ไร่ เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและแม่ตื่น2แปลง แปลงที่ 1 บุกรุกพื้นที่ 9 ไร่ พบอาคารสิ่งปลูกสร้าง12หลัง และแปลงที่ 2 บุกรุกพื้นที่ 20ไร่ พบอาคารสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง
และจุดที่ 4 ศูนย์อบรมเยาวชนวัดดอยโมคคัลลานะ เลขที่ 176 หมู่ 1 ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เนื้อที่19ไร่ โดยมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง14 ไร่ ภายในมีอาคารหอฉัน อาคารอบรมและปฏิบัติธรรม อาคารห้องน้ำรวม และอาคารกุฏิสงฆ์2 หลัง เป็นความผิดฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และ ยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้างหรือเผาป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา9 โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนหาข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พบว่าในอ.ฮอด และ อ.จอมทอง มีการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น เบื้องต้นยึดพื้นที่ที่พบการบุกรุกป่าไว้ก่อน ไม่มีใครสามารถเข้าใช้ได้ จนกว่าจะมีการอนุญาตจากกรมป่าไม้ การยึดพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามที่ทางป่าไม้ร้องทุกข์ว่าพบการรุกพื้นที่ป่า ไม่เกี่ยวโยงกับกรณีวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าสถานที่ทั้ง4แห่งเป็นสาขาวัดพระธรรมกาย เพราะวัดสาขา ไม่มีในกฎหมาย แต่จากการสืบสวนยอมรับว่าพระสงฆ์ในวัดทั้ง4แห่ง ร่วมกิจกรรมรวมตัวกับวัดพระธรรมกาย
