ศูนย์โควิดอัยการสู้ไวรัส รองโฆษกอสส.เผยรองอสส.สั่งนำเทคโนโลยีช่วยงาน-เลื่อนรับส่งตัวผู้ต้องหา เว้นใกล้ขาดอายุความ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของสำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) มีหนังสือสั่งการแจ้งมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารศูนย์ ศบสค.อส.ให้ข้าราชการฝ่ายอัยการทั่วประเทศ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยมีมาตรการดังนี้ 1.เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนเพื่อเป็นมาตรการดูแลสุขภาพอนามัยของบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด คนรอบข้างและประชาชนผู้มาติดต่อราชการในการปฏิบัติราชการ ขอให้ข้าราชการฝ่ายอัยการปฏิบัติตามมาตรการและแผนการทำงานเหลื่อมเวลาและแผนการปฏิบัติงานที่บ้าน ที่สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งเวียนแล้วตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ อส 0006(นย)/ว119 ลงวันที่23 มีนาคม 2563 2 .ให้ทุกสำนักงาน จัดให้มีระบบคัดกรองบุคคลก่อนเข้าภายในอาคารสำนักงาน ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การสวมใส่แมสก์ จัดให้มีเจล หรือแอลกอฮอส์ฆ่าเชื้อไว้หน้าลิฟท์หรือประตูทางเข้าสำนักงาน 3.สำหรับสำนวนการสอบสวนที่รับจากพนักงานสอบสวน หากมีการส่งตัวผู้ต้องหามาด้วยให้อัยการพิเศษฝ่ายหรืออัยการจังหวัด นัดส่งตัวอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม รวมทั่งคดีที่นัดส่งตัวผู้ต้องหาที่นัดไว้ก่อนในเดือนเมษายนก็ให้เลื่อนออกไปหลังเดือนเมษายนได้ เว้นแต่คดีจะขาดอายุความ 4. การรับสำนวนให้เจ้าหน้าที่รับสำนวนสวมแมสก์ สวมถุงมือ และฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อที่สำนวน ทุกครั้ง การติดต่อกับประชาชนและเจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
5.เนื่องจากเดือนเมษายน จะเป็นช่วงโยกย้ายอัยการและผู้พิพากษา ทั่วประเทศ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ขอให้อัยการจังหวัดทั่วประเทศในฐานะผู้ประสานของศูนย์ สบสค.อส มีหนังสือแจ้งประสานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าประจำจังหวัดนั้นๆ พร้อมแจ้งรายชื่อข้าราชการฝ่ายอัยการที่จะย้ายเข้าและย้ายออกแนบไปด้วย 6.ในการประชุม และการจัดการมรดก ให้ทุกสำนักงาน นำมาตรการทางเทคโนโลยี่มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 โดยการประชุมให้หน่วยงานใช้ระบบการประชุมทางไกลสำหรับการประชุมโดยใช้ เเอพพลิเคชั่น โดยการขอจัดตั้งผู้จัดการมรดก ให้การยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ดำเนินการได้ทุกสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องที่สำนักงานศาลที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย และการไต่สวนให้ดำเนินการโดยใช้เเอพพลิเคชั่นประชุมทางไกลกับศาลที่ได้ยื่นคำร้องไว้ เพื่อลดการเดินทางระหว่างจังหวัด พื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่เสี่ยงภัยต่าง ๆ
นายสาวิตร ยังกำชับให้ข้าราชการฝ่ายอัยการ ถือปฎิบัติตามข้อกำหนดต่างๆที่รัฐบาลออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานะการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทั้งข้อกำหนดห้ามทำ ให้ทำและควรทำ เช่น ห้ามเข้าไปในสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค และควรอยู่บ้าน เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนมาตรการต่างๆในระดับจังหวัด ภายใต้การควบคุมของอธิบดีอัยการทั้ง 9 ภาคทั่วประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image