‘ปธ.สภาธุรกิจไทย-พม่า’ประกันตัว 2 คนขนเงินสด 16.5 ล้านเข้าไทย ยันมีหลักฐานซื้อขายปตท.จริง

‘ปธ.สภาธุรกิจไทย-เมียนมา’ ขอประกันตัว 2 หนุ่มสาวขนเงินสด 16.5 ล้านเข้าไทย ยันมีหลักฐานซื้อขาย ปตท.จริง

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 เมษายน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายจ่อเฮง นักธุรกิจน้ำมันชาวเมียนมา พร้อมด้วย นายกริช อึ้งวิฑูรย์สถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา (TMBC) และผู้ก่อตั้งสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา-ไทย (MTCC) เดินทางมาศาล เพื่อเข้าเยี่ยมและยื่นขอประกันตัวนายแตะป่ายอู อายุ 30 ปี กับ น.ส.มิโฉ่ อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาวเมียนมา ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 เมษายน จากกรณีขนเงินสด 16.5 ล้านบาท เข้าประเทศไทย ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมชาวเมียนมาทั้งสองที่หอบเงินมาเพื่อโอนให้กับ ปตท. ทำให้เกิดประเด็นว่าการกระทำชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องแยกประเด็น การนำเงินเข้ามาโดยไม่ผ่านศุลกากรผิดกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องการทำตามหน้าที่ของตำรวจทางหลวง ทำตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. ตนได้รับการขอร้องจากนายจ่อเฮง นักธุรกิจพันล้านซื้อขายกับ ปตท. ทราบว่าปรากฏว่าหลังจับกุม ตำรวจทางหลวงได้จัดแถลงข่าว ตนขอคุยกับตำรวจยศนายดาบ และได้บอกอย่าแถลงข่าว เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเงินของนักธุรกิจเมียนมา ทรงอิทธิพลด้านค้าขาย พื้นที่ของกะเหรี่ยง ถ้าปิดเมียวดีขึ้นมาจะทำอย่างไร และมีคำสั่ง ตร. ที่ 855/2548 กับ 465/2550 ห้ามอนุญาตหรือจัดให้สื่อมวลชนทุกแขนงถ่ายภาพ สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวของบุคคลดังต่อไปนี้ คือผู้ต้องหาในระหว่างการควบคุมของตำรวจ การจัดแถลงข่าวผิดคำสั่ง ตร.หรือไม่ เอาเขามาประจานออกสื่อ เผยหน้า คุณกำลังละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วที่เขียนว่าตำรวจกองบังคับการขอเคลียร์ เขาไม่ได้ขอเคลียร์ เขาขอให้คุณทำตามกฎหมาย ทำไมไม่ทำ กลับเอาเขามาแถลงข่าว

“ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่อะไร ตำรวจมีอำนาจจับกุมทั่วประเทศไม่เถียง แต่หน้าที่ของคุณหรือเปล่า นี่ท้องที่ สภ.แม่สอด คุณให้ข่าวว่าคุณตามตั้งแต่สะพานเมียวดีมา 200 เมตร ถึงจับกุม ใช่หน้าที่คุณหรือ เป็นหน้าที่ของ สภ.แม่สอด จับนอกพื้นที่ไม่ใช่หน้าที่ จับแล้วต้องทำตาม ป.วิอาญา มาตรา 83 สั่งให้ผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับพร้อมด้วยผู้จับ มาตรา 84 ต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนโดยทันที และให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจของที่ทำการของพนักงานสอบสวนดังกล่าว”นายอนันต์ชัย กล่าว

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า ใช้อำนาจจับกุมแล้วต้องส่ง สภ.แม่สอด ทันที แต่เอาไปกักไว้ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวง ตั้งแต่ 10.00-24.00 น. แล้วมาส่งกองปราบ 07.00 น. ทำเพื่ออะไร กฎหมายทำเพื่อไม่ให้มีการเรียกรับผลประโยชน์ อยากฝากบอกผู้บัญชาการสอบสวนกลางอย่าเชื่อลูกน้องมาก ไปดูกฎหมายเล่มเดียวกัน มีอำนาจไม่เถียง แต่ต้องทำตามกฎหมาย และที่สำคัญประธานสภาทนายความฯ แม่สอด ขอไปพบไม่ให้พบผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสิทธิตาม ป.วิอาญา มาตรา 7 ผู้ถูกจับต้องพบทนาย

Advertisement

“ที่ผมมาเรียกร้องเนี่ย ไม่ใช่เรียกร้องอะไร เมื่อคุณบอกว่าเราทำผิดกฎหมาย ไม่เป็นไรดำเนินไป แต่คุณต้องทำตามกฎหมายด้วย กฎหมายเขาบอกเอาไว้ คุณต้องส่งท้องที่ เพื่อกันการเรียกรับผลประโยชน์ แต่คุณไม่ทำ ผมจึงให้คุณจ่อเฮงมาแจ้งความคนหายก่อนในเบื้องต้น และถามต่อว่าผมจะทำอะไรกับพนักงานตำรวจทั้ง 4-5 นาย ผมบอกได้เลยครับ ผมไม่มีวันที่จะไปแจ้งตำรวจ เพราะว่าพวกเดียวกันผมไม่แจ้ง ผมจะไปร้อง ป.ป.ช. เตรียมตัวก็แล้วกัน หลังจากวันนี้ แล้วผมอยากจะบอกฝาก เมื่อไหร่เกิดวิกฤตการณ์ปิดด่านขึ้นมา แล้วพวกคุณจะรู้สึก” นายอนันต์ชัย กล่าว

ด้าน นายกริช เปิดเผยว่า ตนรู้จักนายจ่อเฮงดี เป็นคนค้าขายใหญ่โต ไม่ใช่แค่เฉพาะในเมียวดี ในย่างกุ้งก็ใช่ และเป็นคนสนิทของทางกะเหรี่ยง ถ้าไปทำให้บรรยากาศการค้าเสีย ในอนาคตหลังโควิด-19ไปแล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งจะทำอย่างไร ในไทยเจอโควิด-19หนักหน่วง เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ถ้าเขาปิดด่านไม่ค้าขายกับไทย ตนนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เขายินดีรับฟัง การเอาเงินข้ามมาอยู่ในช่วงวิกฤต ฝั่งพม่าธนาคารปิดหมด เขาต้องการชำระหนี้กับ ปตท. เป็นเรื่องปกติที่จะเอาเงินเข้ามา จับกุมเขาทาง ปตท. ก็ติดต่อเข้ามาหาทนาย เขายืนยันว่านายจ่อเฮงจะนำเงินมาชำระหนี้ให้กับเขา ถ้าอะลุ่มอล่วยกัน ทำอย่างไรก็ได้ให้เศรษฐกิจเราเดินหน้า เราไม่ได้มีเจตนาปฏิปักษ์กับใคร ให้ทุกอย่างอยู่ในความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนที่ตำรวจจับกุม เขาบอกไม่มีหลักฐานชี้แจงที่มาได้ นายอนันต์ชัยกล่าวว่า ไม่ใช่ เขาเอาหลักฐานการซื้อขาย ปตท. ไปให้ แต่ไม่ดู ไม่สนใจ ที่แถลงน่ะผิด เขามีหลักฐานซื้อขายจริง แต่ตำรวจไม่ดู ที่สำคัญการชี้เบาะแสได้รางวัลนำจับ 20% ตนไม่รู้มีนัยอะไรหรือเปล่า ตำรวจแถลง นักธุรกิจ-พยานแถลง จะเชื่อใครให้ประชาชนตัดสินใจเอาละกัน มีหลักฐานเป็นร้อยฉบับแต่ไม่ดู แต่เลือกแถลงข่าวเพื่อสร้างผลงาน ยังไงก็ไป ป.ป.ช. ชัวร์

Advertisement

เมื่อถามถึงวิธีการโอนเงินที่ถูกกฎหมาย นายกริช  กล่าวว่า วิธีการถูกกฎหมายนำเงินเข้ามาต้องไปสำแดงที่ศุลกากร ลูกน้องนายจ่อเฮงไม่ทราบ เขาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน เป็นประเพณีปฏิบัติที่คนอยู่ชายแดนหิ้วเงินข้ามมาจ่ายเป็นเรื่องปกติ คนไทยก็เอาเงินสดข้ามไปฝั่งพม่าโดยไม่ได้สำแดง เขาก็ยอมรับให้ปรับไปไม่เป็นไร ยอมทำตามกฎหมายทุกอย่างไม่ได้ดื้อ เดือนหนึ่งเขาซื้อ ปตท.ทั้งหมด 280 กว่าชุด วันนี้ธนาคารที่เมียวดีไม่มีสิทธิโอนเงินออกมา เขาต้องโอนเข้าไปในย่างกุ้ง แล้วย่างกุ้งถึงโอนออกมาอีกที ทีนี้ธนาคารที่ย่างกุ้งปิดหมด ทำไม่ได้ ถึงเวลาชำระเงินแล้วเขาก็หิ้วเงินมาชำระหนี้ให้ ระบบออนไลน์ไม่มี เขาเพิ่งจะเปิดประเทศ ต้องอะลุ่มอล่วยกัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image