ร้านซาลอนศูนย์ราชการเผยแนวทางเปิดบริการ หลัง ศบค.ผ่อนปรน 3 พ.ค. เปิดไลน์กลุ่มดึงลูกค้า-ห้ามพูดกัน-จ่ายเงินผ่านคิวอาร์โค้ดเท่านั้น งดบริการ จนท.กกต. หลังติดไวรัส
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมตัวของร้านค้ากิจการต่างๆ ทั้ง 6 รูปแบบตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ได้ประกาศผ่อนปรนให้กลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยต้องปฏิบัติตามแนวทางเว้นระยะห่างทางสังคม(Social Distancing) อย่างเข้มงวด
สอบถาม น.ส.แสงดารา โคตรมณีวงศ์ อายุ 30 ปี ช่างตัดผมในร้านทำผมซาลอนแห่งหนึ่งประจำศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร บี เจ้าตัวระบุว่า นายจ้างให้สร้างไลน์กลุ่มสำหรับดึงลูกค้าเข้ามา เพื่อนัดหมายการทำผม โดยให้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ เพราะจะไม่ให้นั่งคอยในร้าน เมื่อถึงคิวก็จะตามมาตัดสระเอง แต่ทางร้านจะแนะนำให้สระผมมาเองเลยแต่จะเซ็ตผมให้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสัมผัสหนังศีรษะด้วยตัวช่างโดยตรง และทางร้านจะทำป้ายติดรูปห้ามสนทนาตลอดการตัดสระระหว่างลูกค้ากับช่าง รวมถึงไม่รับเงินสด ให้สแกนชำระผ่านคิวอาร์โค้ดเท่านั้น
นอกจากนี้ ช่างจะกดเจลล้างมือให้เอง รวมถึงเช็ดเบาะเก้าอี้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังให้บริการ ซึ่งทางร้านจะไม่เปิดแอร์ภายในร้าน แต่จะอาศัยลมแอร์จากศูนย์ราชการและเปิดเครื่องดูดอากาศแทน
น.ส.แสงดารา กล่าวต่อ สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทางร้านหลังเกิดวิกฤตโควิดแพร่ระบาด ส่งผลให้ลูกค้าหายไปร้อยละ 40 ซึ่งลูกค้าส่วนมากจะเป็นข้าราชการและชาวต่างชาติ อีกทั้งทางร้านตัดผม ก็เปิดเป็นร้านรองเท้าด้วย ไม่มีคนกล้ามาลองใส่ ซึ่งค่าเช่าในนี้สูงถึงเดือนละ 40,000 บาท แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าของสถานที่ได้มีมาตรการผ่อนปรนค่าเช่า หากไม่เปิดร้านก็จะไม่เรียกเก็บเงิน แต่หากเปิดจะลดค่าเช่าให้ครึ่งหนึ่ง ยกเว้นค่าน้ำค่าไฟต้องจ่ายเองต่างหาก แต่เดือนพฤษภาคมนี้ยังไม่มีมาตรการใดแจ้งออกมา
น.ส.แสงดารา กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ กกต.ติดเขื้อโควิด ทางร้านจะต้องขออนุญาตไม่ให้บริการเจ้าหน้าที่หน่วยงานนี้เลย เนื่องจากเราก็กลัว ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เป็นข้าราชการที่ทำงานในนี้ ทางเราก็จะขอเบอร์โทรศัพท์ และหน่วยงานที่สังกัด เพื่อหากว่าลูกค้าเป็นกลุ่มเสี่ยงจะติดเชื้อขึ้นภายหลัง อย่างน้อยเราจะได้ช่วยทางภาครัฐติดตามหาตัวให้ได้
“นับตั้งแต่ร้านเปิดทำการมา 11 ปี ก็ไม่เคยเกิดปัญหาเช่นนี้มาก่อน แต่แม้ว่าที่ร้านตนจะปิดแต่นายจ้างก็ยังจ่ายค่าจ้างเต็มอัตราตลอด นับว่ายังโชคดีมาก แต่ที่อื่น ก็ยังมีลูกจ้างหลายคนที่ถูกเลิกจ้างไปเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ จึงอยากฝากถึงนายจ้างคนอื่นๆ ว่าขอให้เห็นใจและหาทางช่วยเหลือเขาด้วย เพราะเมื่อถูกเลิกจ้างไปแล้ว ก็จะเกิดภาระกับชีวิตเขาทันที” น.ส.แสงดารา กล่าว
