ตำรวจเฝ้าระวังมือที่3จ้องป่วนประชามติ-ไล่เช็กต้นตอ’จม.’3พันฉบับบิดเบือนรธน.

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติหน่วยที่ 5 ในโรงเรียนวชิรสารศึกษา หมู่ 5 บ้านเหนือ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า พบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากความซุกซนของเด็กหญิง 2 คน อายุ 8 ขวบ ไปวิ่งเล่นและก่อเหตุขึ้นโดยไม่มีเจตนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ไว้ก่อน กรณีดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางการเมือง จากการสอบสวนทราบว่าเด็กเข้าไปวิ่งเล่นในบริเวณดังกล่าวและพบว่ากระดาษที่อยู่มีสีสันสวยดีจึงเข้าไปฉีกเล่นโดยไม่ได้เจตนา เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเด็กทั้ง 2 คน พร้อมกับสหวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย พร้อมพูดคุยกับผู้ปกครอง ส่วนกรณีที่เด็กอายุต่ำว่า 10 ขวบ แล้วเด็กไม่ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดนั้น เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนการสั่งย้าย พ.ต.อ. อิทธิ ชำนาญหมอ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ. 6 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมนั้น เป็นเรื่องความผิดในการรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบล่าช้าเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องในคดีที่ดังกล่าวแต่อย่างใด

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า ในวันที่ 7 สิงหาคม ที่จะถึงนี้เป็นวันลงประชามติ ถือว่าเป็นวันสำคัญของประเทศ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงว่าจะมีมือที่ 3 ทางตำรวจมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในทั้งก่อนและหลังการลงประชามติ จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังเหตุโดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลและตรวจสอบการข่าวอยู่แล้ว ยอมรับว่ามีการรายงานข่าวที่ชัดเจนในการเฝ้าดูพื้นที่หรือกลุ่มบุคคลที่จะก่อความวุ่นวาย แต่ยังไม่ได้เฝ้าระวังที่พื้นที่หรือกลุ่มบุคคลใดเป็นพิเศษ ไม่อยากให้มองว่าจังหวัดใดเป็นพื้นที่ของนักการเมืองพรรคใด และอยากให้ประชาชนศึกษากฎหมายว่าสิ่งใดทำได้หรือทำไม่ได้ การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถทำได้ แต่มาตราหนึ่งในประชามตินั้น สามารถให้ประชาชนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นตามที่กฎหมายกำหนดได้ แต่ต้องไม่ใช่การยุยง ส่งเสริมความไม่สงบทางการเมือง หรือการด่าหยาบคายไม่มีมูลความจริง รวมไปถึงห้ามไม่ให้จัดทำโพลสำรวจต่างๆ ด้วย เกรงว่าจะเป็นการชี้นำประชาชน หากพบว่ามีการก่อความไม่สงบเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายโดยบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับที่ให้อำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติ

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบจดหมายที่ไปรษณีย์ จ.ลำปาง แล้วพบจดหมายกว่า 3,000 ฉบับ จ่าหน้าซองลงเพียงเลขที่บ้าน แต่ไม่ระบุชื่อผู้รับ และไม่ระบุชื่อผู้ส่ง และจดหมายบางซองไม่ได้ปิดผนึก มีข้อความบิดเบือนสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญที่ผิดไปจากร่างรัฐธรรมนูญจริง รวมถึงกรณีที่นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า มั่นใจว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง และมีข้อมูลที่พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง ทราบว่ามีอีกส่วนหนึ่งอยู่แถวเขตดุสิต กำลังติดตามและตรวจสอบ หาหลักฐานอยู่นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกำลังช่วยกันสืบหาที่มาของจดหมายดังกล่าว และตัวการรวมไปถึงผู้สนับสนุนด้วยจะได้รับโทษเท่ากัน ถึงจะเป็นประชาชนแล้วอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image