เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พา นางวริศรา แก้วปลัง อายุ 56 ปี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุรินทร์ และบรรณาธิการข่าว น.ส.พ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.สุรินทร์ นางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี และพระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.เพื่อให้ถ้อยคำรวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา พยายามค้ามนุษย์ และความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐาน
นางวริศรกล่าวว่า ตอนอาศัยอยู่ใน จ.พิษณุโลก มีธุรกิจร้านอาหาร และเป็นบรรณาธิการ น.ส.พ.ท้องถิ่นถูกนางไก่ ฟ้องหมิ่นประมาท และกลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนอีกหลายเรื่อง พอมีคดีกันทำให้ต้องย้ายไปอาศัยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ก่อนหน้านั้นจากที่ตนเป็นประธานสมาพันธ์ธุรกิจบันเทิงจะมีการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นประจำทุกเดือนเดือนละครั้ง นางมณตา เสนอตัวรับอาสาเป็นคนเลี้ยง แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมจ่ายเงินในการจัดกิจกรรมเป็นเงินกว่า 2 แสนบาท เหตุเกิดห้วงปี 2536-2540 อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล กลับถูกนางไก่ แจ้งความดำเนินคดีข้อหากรรโชกทรัพย์ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี นอกจากนี้ ยังมีการฟ้องหมิ่นประมาท รวมแล้วกว่า 10 คดี
ด้าน นางสายใยกล่าวว่า ถูกนางไก่ ร่วมมือกับเจ้าอาวาสวัดยี่ป่า ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกลวงเอาเงินไป 2.8 ล้านบาท อ้างเป็นคุณหญิง มีความสนิทสนมกับท่านผู้หญิงสามารถขอเครื่องราชฯ ชั้นสายสะพายให้ได้และจะได้เป็นคุณหญิง ตนหลงเชื่อโอนเงินไป รวมทั้งสิ้น 2.8 ล้านบาท ภายหลังเชื่อว่าถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขณะที่พระสมุห์เชาวลิตกิติเมธี กล่าวว่า หลังจากเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทราบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดยี่ป่า จึงสั่งให้ตนซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม เข้าไปรื้อวัดยี่ป่า เพราะเป็นวัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่แต่อย่างใด แต่กลับถูกนางไก่ และพระที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าอาวาสวัดยี่ป่า รวมถึงชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ตน พร้อมอ้างตัวเป็นคุณหญิงรู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้น จึงเดินทางให้ข้อมูลกับตำรวจ หากมีหลักฐานเพียงพอจะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเอกสารการร้องทุกข์และหลักฐานต่างๆ ไว้ ก่อนมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.2บก.ป. สอบปากคำเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
