จับแก๊งหลอกขายหน้ากากอนามัยออนไลน์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ศปอส.ตร. แถลงผลงาน จับผู้ต้องหาหลอกขายหน้ากากอนามัย ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาหลอกขายหน้ากากอนามัย ทางระบบออนไลน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

โดยพล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า วันที่ 29 กุมภาพันธ์ มีกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้ซื้อหน้ากากอนามัยทางออนไลน์ เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้เสียหายได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยที่มีผู้ประกาศขายโดยใช้เพจและบัญชีเฟซบุ๊ก เพจผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก ซื้อขายสินค้า ตามกระแสโดนๆ ของเล่นเด็กกวนๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “พรวิมล เกษเกียรติขจร” และผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “Boonyanut Boonylongkorn” ซึ่งเป็นพฤติกรรม ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อ ภาพ แสดง ตนเป็นบุคคลอื่น เสนอขายหน้ากากอนามัย ใช้รูปภาพของหน้ากากอนามัย ยี่ห้อ THAIHEALTHMASK ในราคาชิ้นละ 9 บาท กล่องละ 450 บาท เมื่อมีประชาชนผู้สนใจสั่งซื้อชำระเงินแล้วกลับไม่ได้สินค้า ทั้งนี้มีประชาชนเสียหายและ บุคคลากรทางการแพทย์ ที่มีความต้องการจะซื้อหน้ากากอนามัยไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ รวมแล้วมีจำนวนมากกว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนรวม 15 สถานีตำรวจ และเหลือยังไม่แจ้งความอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า ต่อมาได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.คธม.บช.ทท.พร้อมพวก ร่วมกับพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ ทำการสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการ จากการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา เพื่อจับกุมตัวนายพายุทัศ พองภู่ อายุ 26 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ต่อมาวันที่ 10 พ.ค.สามารถติดตามจับกุมนายพายุทัศ ได้บริเวณบริเวณริมถนนสาธารณะ หมู่1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ชั้นจับกุม ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จับกุมน.ส.นภัสต์ศรณ์ แถลง อายุ 32 ปี ศาลอนุมัติหมายจับตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมได้วันที่ 12 พ.ค.บริเวณภายในร้านกาแฟนายบ้าน หมู่ 4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ชั้นจับกุม ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

และจับกุมน.ส.ชญาดา เมธาโยธินกุล อายุ 28 ปี ศาลอนุมัติหมายจับตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยน.ส.ชญาดา เข้ามอบตัว ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ วันที่ 14 พ.ค. ในชั้นรับมอบตัว ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยนายพายุทัศ เคยถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.254/2563 ลงวันที่ 26 มี.ค.
ในความผิดฐาน “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวในคดีดังกล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า วีธีการหลอกลวงของขบวนการนี้ จะมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายพายุทัศ จะเป็นผู้ดูแลภาพรวมทั้งหมด เป็นหัวหน้าขบวนการ ส่วนน.ส.นภัสต์ศรณ์ จะทำหน้าที่หลอกผู้เสียหาย โดยใช้แอพเงินกู้ หลอกให้ผู้เสียหายเข้ามาร่วมลงทุนในการปล่อยเงินกู้เงิน ซึ่งจะมีการขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชน เพื่อนำไปสร้างบัญชีปลอม นำไปสมัครในระบบออนไลน์ สำหรับน.ส.ชญาดา มีหน้าที่ทำด้านกราฟิก เพื่อให้เกิดความหน้าเชื่อถือ ในการนำไปหลอกผู้เสียหาย เบื้องจะตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image