เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง น.ส.เบญ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ที่เคยให้การช่วยเหลือ น.ส.นิษฐา วงวาล หรือแม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี ผู้ต้องหา “รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน” โดยระบุว่าเห็นคนโพสต์เรื่องราวในเพจแม่และเด็ก ถึงเรื่องน้องอมยิ้มป่วยไม่สบาย ตั้งแต่กลางปี 2561 จากโรคประหลาดหายาก มีค่ารักษาพยาบาลแพงมาก แม่ปุ๊กจึงต้องเปิดรับบริจาค ตนเคยโอนเงินบริจาคครั้งละ 500-1,000 บาท หรือช่วยซื้อของให้น้องอมยิ้ม ซึ่งก็มีคนอื่นๆ ทั้งประเทศที่ให้อีกเยอะมาก เพราะเชื่อว่าอาการของน้องอมยิ้มพบได้ 1 ในล้านตามที่แม่ปุ๊กอ้าง โดยจะมีอาการอาเจียนบ่อยและบางครั้งก็เป็นเลือด ต้องเข้าห้องไอซียูบ่อยครั้ง เมื่อเห็นแล้วสงสารจึงช่วยเหลือ
น.ส.เบญกล่าวต่อว่า พอน้องอมยิ้มเสียชีวิตในวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ตนก็เดินทางไปร่วมงานศพน้อง แต่สงสัยว่าทำไมในรูปหน้าศพของน้องอมยิ้มไม่มีชื่อ ไม่มีวันเกิด วันเสียชีวิต มีแต่รูปเฉยๆ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตก็ไม่กล้าถามเพราะแม่ปุ๊กยังเสียใจอยู่ หลังน้องอมยิ้มเสียชีวิตได้ไม่กี่เดือน ประมาณวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา แม่ปุ๊กก็โพสต์เฟซบุ๊กอีกว่า “เกิดเรื่องช็อกน้องอิ่มบุญอ้วกเป็นเลือด” จนต้องเข้าไอซียู เมื่อหมอตรวจสอบพบว่าเป็นอาการเดียวกับน้องอมยิ้ม ตนก็เริ่มสงสัยเพราะเคยเห็นน้องอิ่มบุญในงานศพน้องอมยิ้ม ซึ่งก็ดูแข็งแรงดี ไม่น่าจะป่วยได้ ทั้งยังสงสัยว่าทำไมถึงเป็นโรคเดียวกัน ทั้งที่แม่ปุ๊กอ้างว่าเป็นโรคที่มีเพียงหนึ่งในล้าน เมื่อตนโพสต์เฟซบุ๊กทำนองว่า “มีคนที่เอาลูกป่วยมาหากิน” จู่ๆ คนในหมู่บ้านเดี๋ยวกันกับแม่ปุ๊กเพิ่มเพื่อนหาตนเพื่อบอกว่าแม่ปุ๊กเป็นยังไง จึงนำข้อมูลมาประกอบกับเรื่องที่ตนเคยสั่งของจากแม่ปุ๊ก แล้วแม่ปุ๊กปิดเฟซบุ๊กหนีไป และยังมีข้อมูลจากคนที่เคยเจอในงานศพน้องอมยิ้ม เขาก็บอกตนว่าแม่ปุ๊กน่าจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะเคยสั่งของแล้วไม่ได้ของ เคยโกงหน้ากากอนามัยไปเป็นเงินหลักแสนบาท โกงออมเงิน โกงออมทอง เคยถูกโพสต์ในเพจแม่และเด็กว่าโกงค่านมเด็กป่วย ทั้งยังเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลมาประมาณ 6 ครั้ง
น.ส.เบญกล่าวอีกว่า ตนจึงโพสต์ข้อความลอยๆ อีกครั้งว่า “วางยาลูก” โดยไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เพื่อนแม่ปุ๊กมาเห็น แล้วแม่ปุ๊กก็ไปแจ้งความว่าตนหมิ่นประมาทไว้ที่ สน.ดอนเมือง แต่หลังจากนั้นกองปราบปรามก็เข้ามาดูคดี ตรวจสอบเส้นทางการรับบริจาคเงินของน้องอมยิ้ม บัญชีที่รับบริจาคมีชื่อแม่ตัวจริงของน้องอมยิ้ม ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกง แต่เปิดบัญชีไว้ให้น้องอมยิ้ม ซึ่งแม่แท้ๆ น้องอมยิ้ม มีลูกทั้งหมด 3 คน ตนโตคือน้องอมยิ้ม แม่ปุ๊กขอเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 4 วัน คนที่ 2 ได้ให้คนที่ จ.ชลบุรี ไปเลี้ยง ส่วนคนที่ 3 ให้ยายไปเลี้ยง ซึ่งแม่รายนี้อ้างกับตำรวจไม่รู้ว่าลูกตัวเองเสีย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบสารเคมีเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำในร่างกายน้องอิ่มบุญ แต่ของน้องอมยิ้มนั้นตนไม่รู้ พบแต่เพียงแผลอักเสบในท้อง แล้วก็ในหลอดอาหาร ตนก็สงสัยว่าทำไมเด็กทั้ง 2 คนถึงมีอาการคล้ายกัน แม่ปุ๊กก็ไม่เปลี่ยนโรงพยาบาล ตอนนี้น้องอิ่มบุญปลอดภัยแล้ว ถ้าแม่ปุ๊กทำแบบนี้จริงๆ ตนคิดว่าเขาไม่น่าเอาชีวิตคนมาเป็นเครื่องมือหาเงินแบบนี้
