เหยื่อซัด “แม่ปุ๊ก” เลว! หากวางยาลูกทั้งสองคนฮุบเงินบริจาค แฉไลฟ์สดตอน “อมยิ้ม” เสียชีวิต อัดคลิปตอน “อิ่มบุญ” โคม่า ทนายดังรับไม่ได้ ประกาศต้องยึดทรัพย์ให้หมด
กรณีสังคมเคลือบแคลงใจ หลังจากที่ “นางสาวนิษฐา วงวาล” หรือ “แม่ปุ๊ก” ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก 2 รายกล่าวโจมตีว่าวางยาลูกหวังฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน ต่อมาพบว่า “น้องอมยิ้ม” ซึ่งเสียชีวิตไม่ใช่ลูกแท้ๆ ขณะที่ “น้องอิ่มบุญ” ซึ่งตอนนี้อยู่ รพ.จะใช่ลูกแท้ๆ หรือไม่
รายการโหนกระแสวันที่ 25 พ.ค. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ “แม่เบน” ผู้เสียหาย ที่ถูกแจ้งความด้วย และ “แม่ออย” ผู้เสียหายอีกคน ที่รู้เรื่องต่างๆ นานาเกี่ยวกับแม่ปุ๊ก และ “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร”
รณณรงค์ : “เราเห็นแบบนี้เรารับไม่ได้มาก นอกจากดำเนินคดีแล้วต้องยึดทรัพย์ทั้งบ้านให้หมดเลย มันยอมไม่ได้ เอาเด็กมาทรมาน กว่าเรื่องจะแดง เด็กต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น ยังไงก็ตามต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่สุดท้ายปลายทางต้องยึดทรัพย์ให้หมด”
แม่เบน เรื่องเกิดอะไรขึ้น เป็นผู้เสียหายคนแรกๆ?
แม่เบน : “เรามีความสงสัย ตั้งแต่ไปงานศพหนูยิ้ม”
ตั้งแต่แรกรู้จักครอบครัวได้ยังไง?
แม่เบน : “รู้จักในเฟซในกลุ่มแม่และเด็ก เขาลงว่านองอมยิ้มป่วย และอัพเดตอาการตลอด เมื่อต้นปีที่แล้วค่ะ หลังจากนั้นเขาลงอาการน้องว่าอาเจียนเป็นเลือด เข้าออก รพ.หลายคั้ง และขอรับบริจาค”
ทำไมต้องขอรับบริจาค?
แม่เบน : “น้องเป็นโรคหายาก เป็น 1 ในล้าน เขาโพสต์ว่าหมอบอกเขา ว่าน้องยิ้มเป็น 1 ในล้านที่หมอหาสาเหตุไม่ได้ แต่อาเจียนเป็นเลือด บางทีก็อาเจียนเป็นฟองสีขาวออกมา”
เรื่องเกิด ม.ค. ปี 61 รักษาเรื่อยมาเป็นปี จนน้องมาเสียชีวิต 12 ส.ค. ปี 62 ตอนแรกรู้มั้ยน้องอมยิ้มไม่ใช่ลูกแม่ปุ๊ก?
แม่เบน : “ตอนแรกไม่รู้ค่ะ เพิ่งมารู้ตอนน้องอิ่มบุญป่วย และเกิดประเด็นปิดเฟซหนี ก็เลยตาม ก็รู้ว่ามีการโกงกันขึ้นมา”
แม่ออยพอสัมผัสเรื่องของเขาได้ตั้งแต่แรก?
แม่ออย : “อย่างของออยตอนแรกออยไม่เชื่อ ตอนที่มีเรื่องหน้ากากอนามัยเข้ามา ออยก็อ่านตามคอมเมนต์ทั้งสองฝ่าย แต่อย่างออยสั่งอะไรจากแม่ปุ๊ก ออยได้ของตลอดและได้ของเร็ว เราก็ยิ่งเป็นความเห็นใจและสงสารเข้าไปอีก เขาเคยส่งแชตมาหาออยว่าอยากได้ของบริษัทออยไปขายเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกเขา เราก็โอเคเลย ทีนี้ตอนเย็นส่งมาอีกว่าเขาขายได้เป็น 100 กล่อง เราก็ยิ่งดีใจ เพราะ 100 กล่องกำไรหมื่นกว่าบาทแล้ว เขาจะได้เอาไปเป็นค่ารักษาลูก เขาบอกว่าใช้ครั้งนี้ประมาณ 7 หมื่นกว่าบาท ถ้าไม่ได้ใจเราคือจะซับพอร์ตอยู่แล้ว ครั้งนั้นเราโอนช่วย 2 หมื่น เราเห็นว่าเขาพยายาม ตอนนั้นเขาไม่ได้มาโพสต์ขอ เขาจะขายของตลอด เรามองว่าเขาขยัน มีความพยายาม ไม่ได้งอมืองอเท้าโพสต์ขอ และคุยกันตลอด จนวันน้องยิ้มเสีย ออยปวดท้องเข้า รพ.พอดี ตอนนั้นออยต้องไปงานน้องเหมือนกัน ก็คุยกัน แต่ก็ทำได้แค่โอนเงินไปบริจาค”
เห็นว่าตอนน้องเสียมีการไลฟ์?
แม่ออย : “ใช่ค่ะ แม่ปุ๊กเขานั่งบนเตียงกับน้องยิ้ม น้องไม่รู้สึกอะไรตามภาพ เขานั่งเล่านิทานให้น้องยิ้มฟัง และก็บีบหัวใจ เด็กนาทีต่อนาทีเขาจะหมดลมไปแล้ว ใจเราตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเขาไลฟ์อะไรยังไง อาจเป็นเพราะแฟนคลับน้องยิ้มเยอะมั้ย แต่ในความรู้สึกเราไม่น่าไลฟ์สด เราแค่สงสัย เราดูเราก็สงสารน้องตลอด”
ระหว่างไลฟ์ เขาขอเงินบริจาคมั้ย?
แม่ออย : “ยังค่ะ เขาเล่านิทานไปเรื่อยๆ บอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้ไปได้เลย ยังไม่พูดถึงเงินบริจาค”
เขาเปิดรับบริจาค หลังน้องเสียชีวิตอีกมั้ย?
แม่ออย : “มีค่ะ ตอนวันที่เป็นงานศพ เขาออกมาชี้แจงรายจ่ายว่าเขาใช้อะไรไปบ้าง จากการรักษาหนูยิ้มเขาเหลือเท่าไหร่ เขาบอกว่าเงินที่เหลืออยู่อาจไม่พอสำหรับการจัดงานน้อง เหมือนมีการขายกล้วยตากกล้วยทอดหรือยังไม่แน่ใจ แต่มีการแปะเลขบัญชีเพื่องานน้อง”
ตอนอมยิ้มนอนป่วย มีอาการต่างๆ นานา เห็นแม่ให้น้องยกมือไหว้และถ่ายรูปลงในเฟซ เพื่ออะไร?
แม่ออย : “ตอนนั้นเหมือนให้น้องขอบคุณคนที่โอนมาและช่วยซื้อของ เขาก็ชี้แจงเลยว่าค่ายานอกบัญชีเท่าไหร่ ค่าส่งตรวจชิ้นเนื้อไปเมืองนอกเท่าไหร่”
แม่เบนบอกว่าที่ยอมโอนเงินให้เพราะเขาบอกว่าไม่มีเงินส่งตัวอย่างส่งชิ้นเนื้อน้องไปต่างประเทศ?
แม่เบน : “เขาบอกถ้าตรวจในไทย 1-2 หมื่นบาท แต่ได้ช้า 1 เดือนและผลตรวจไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ กับอีกอันให้เลือกคือต่างประเทศ 8 หมื่นบาท เขาโพสต์ว่าไม่มีเงินแต่อยากซื้อเวลาให้ลูก”
คนหลั่งไหล่บริจาคเพราะอยากให้น้องรอดชีวิตและรู้สาเหตุว่าเป็นอะไร?
แม่เบน : “ใช่ค่ะ เหมือนจะได้ช่วยน้องเรา”
โอนเข้าชื่อใคร?
แม่เบน : “เอม อัชนา วัฒนะกูล”
ไม่สงสัยเหรอ?
แม่เบน : “ทุกคนเข้าใจว่าเอม อัชนา คือ แม่ปุ๊ก เพราะน้องยิ้มชื่อณัฐณิชา วัฒนะกูล”
พอเขาให้โอนเข้าบัญชีก็คิดว่าเป็นบัญชีแม่ปุ๊ก แม่แท้ๆ
แม่เบน : “ค่ะ”
หลังจากนั้นน้องเสียชีวิตแล้วติดต่อโอนเงินกันยังไงต่อมั้ย?
แม่ออย : “หลังน้องยิ้มเสียไป แกก็ไปโกนหัวบวชชี ไปมีพิธีทำบุญให้น้องที่อุบลฯ วันที่เฟซแกเริ่มเงียบๆ วันนั้นมีโพสต์มาว่าน้องอิ่มบุญหาย หาลูกไม่เจอ ออยก็เข้าไปตามอ่าน เขาบอกว่าเล่นด้วยกันอยู่ดีๆ ลูกหายไปไหน แต่โพสต์ข้อความยาวเหยียดเลย ออยก็เอะใจว่าลูกหายยังมีเวลามาโพสต์ ขนาดนี้ น่าจะโพสต์เตือนใจหลังเจอน้องแล้วมั้ย สักพักช่วงสายๆ บอกว่าเจอน้องแล้ว น้องเดินตามคุณยายไปเก็บเห็ดอยู่ในป่า หลังจากนั้นอีกไม่นานมีแต่รูปน้องอิ่มบุญกินนม แล้วก็โพสต์ว่าน้องกินนมเยอะ ลังนึงอยู่ได้วันสองวัน ตอนนี้เหมือนขายของยาก วันที่เป็นข่าว คือ วันที่น้องอิ่มบุญป่วยเข้า รพ.”
วันที่ 9 ม.ค. ปี 63 ผ่านมา 7 เดือนหลังน้องยิ้มเสียชีวิต เข้า ม.ค. น้องอิ่มบุญเริ่มป่วย?
แม่ออย : “ออยส่งไปถามเขาบอกว่าอาการเดียวกับน้องยิ้มเลย หมอยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่น่าจะเป็นโรคเดียวกันเพราะอ้วกเป็นเลือด และถ่ายอ่อนแรง แต่น้องอิ่มอาการหนัก เหมือนจะไม่รู้สึกตัวไปแล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มกลับมาให้ความสนใจกันอีก แต่รูปที่เห็นเราก็มาตั้งคำถามว่าบริเวณปากน้องทำไมไหม้ มันเบิน ถ้าน้องอ้วกซับอ้วกจะไม่เป็นแบบนั้นแน่อน เราก็สงสัยว่าไปโดนอะไรมา มีคุณแม่ มีเพื่อนมาถามว่าบ้านเขาอยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมมั้ย เราก็บอกว่าเท่าที่คุยกันบ้านเขาอยู่ในชุมชนดอนเมือง ไม่ได้ใกล้โรงงานอะไร ทุกคนก็สงสัยเป็นโรคพันธุกรรมมั้ย เพราะคิดว่าเป็นพี่น้อง ตามที่แม่เขากล่าวอ้างมา”
ตอนแรกแม่บอกน้องอมยิ้มหนึ่งในล้าน เพราะหมอบอกมาอย่างนั้น อยู่ดีๆ อิ่มบุญเป็นเหมือนพี่สาว ช่วงเวลา 6 เดือนกลายเป็น 2 ในล้าน เพราะเราไม่รู้ว่าน้องยิ้มเป็นลูกคนอื่น คิดว่าเป็นพันธุกรรม ถามจริงๆ เกิดข้อสงสัยมั้ย?
แม่เบน : “สงสัยค่ะ อาการอาเจียนเป็นเลือดเหมือนกัน เขาโพสต์ว่าอาการลูกสองคนเป็นโรคเดียวกัน แต่อิ่มบุญมันปากเบินไม่ใช่แพ้อาหารค่ะ”
เขาเริ่มขอรับบริจาคยังไง?
แม่ออย : “เริ่มใช้การขายของ มีกล้วยตากพี่ยิ้มออกมาเหมือนเดิม มีถุงผ้าออกมา ช่วงโควิดระบาด ตอนน้องอยู่ไอซียู ต้นเดือน ก.พ.แกทักออย ตอนนั้นออยขายเจล แอลกอฮอลล์ แกก็ทักมาหาขอเรต แจ้งจำนวน ออยก็บอกว่าตอนนี้ของออยขาดตลาด ถ้ามีที่ไหนได้ราคาดีกว่าออยก็ให้ไปเอาเลยนะ เราอยากให้เขามีรายได้ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ให้มาที่ออย อีกวันแกส่งแค่สติ๊กเกอร์กลับมา แล้วออยก็เห็นเขาโพสต์ขายของแล้ว”
แต่ที่พีคกว่านั้นเขาบอกเงินประกันตัวน้องอิ่มบุญในการรักษา ไม่เพียงพอ?
แม่เบน : “ใช่ค่ะ เขาบอกว่าซื้อประกันสุขภาพน้องอิ่มบุญไว้ วงเงิน 6 หมื่น แต่ค่ารักษาเยอะกว่านั้นเยอะ เขาเลยขอรับบริจาค อีกส่วนก็จัดทำกล้วยกรอบขายชุดละ 300 เพื่อเป็นค่ารักษาน้องอิ่มบุญ”
สงสัยมั้ยเงินก้อนแรกที่บริจาคให้น้องยิ้มทำไมไม่เอาออกมาใช้?
แม่ออย : “ตอนนั้นไม่สงสัยค่ะ เพราะเขาแจกแจงตลอด สมมุติได้ 2 แสนบาท เขาก็เอารายละเอียดการจ่ายเงินมากาง สมมุติ เหลือ 2 หมื่น เขาก็บอกว่าจะเอาไว้ต่อทุนเพื่อค้าขายเอามารักษาน้อง”
ทีมแพทย์ที่รักษาน้องอิ่มบุญและน้องอมยิ้ม ตามรายงานข่าวบอกว่าผลตรวจอาการป่วยของน้องมีสิ่งที่เหมือนกันคือ พบสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เชื่อว่าน่าจะถูกผสมในอาหาร หรือเครื่องดื่มต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ สารดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างมากเกินไป จนทำลายอวัยวะภายใน ซึ่งปริมาณที่ทั้งสองคนได้แตกต่างกันออกไป คุณหมอบอกว่าอิ่มบุญน่าจะได้รับสารเคมีมากกว่าอมยิ้มทำให้อาการที่แสดงออกมาหนัก และแรงกว่าคนแพ้อาหารทะเล มีอาการเบินพอง ส่วนพฤติกรรมที่คุณหมอสงสัยแม่ปุ๊ก คือตอนน้องอิ่มบุญอาการหนัก ระหว่างน้องอาเจียนออกมาเป็นเลือดแทบสลบ แพทย์พยายามรักษายื้อชีวิตน้อง แต่แม่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ควรต้องวิ่งเข้าไปเป็นห่วงลูก ปรากฎแม่ถ่ายคลิปเอาไว้ นั่นทำให้หมอคลางแคลงใจและเริ่มจับสังเกตไม่อยากไว้ใจแม่ เพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กทั้งสองคน พอมีข่าวแบบนี้ ตกใจมั้ย?
แม่ออย : “ตกใจ”
แล้วทำไมรู้ว่าอมยิ้มไม่ใช่ลูกแม่ปุ๊ก?
แม่เบน : “คือบัญชีที่ใช้โกงคือเอม อัชนา ตร.ก็เลยเรียกมาสอบ เขาอ้างว่าไม่รู้ว่าลูกตายและไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการโกง”
ไปงานศพ รูปไม่มีชื่อ สงสัยมั้ย?
แม่เบน : “สงสัย แต่ไม่กล้าถาม กลัวเขาเสียใจ”
เจอน้องอิ่มบุญมั้ยตอนงานศพน้องอมยิ้ม?
แม่เบน : “เจอค่ะ แต่เราเห็นว่าหน้าเด็กกับหน้าคนอุ้มเหมือนกัน เราไม่รู้ว่าเป็นน้องชาย ก็คิดว่าเป็นสามีแม่ปุ๊ก พอไปถามเพื่อน เพื่อนบอกเป็นน้องชาย”
ประเด็นที่เกิดขึ้น เราเพิ่งทราบว่าน้องอมยิ้มไม่ใช่ลูก แต่เอามาเลี้ยง น้องอมยิ้มคือลูกเอม?
แม่เบน : “รู้เพราะกรณีแม่ม่อนที่โดนโกงแล้วไปแจ้งความ ตร.เลยเรียกเจ้าของบัญชีที่ใช้โกงมาสอบปากคำ เอม อัชนาตัวจริงก็เลยมาเจอ ตร. เขาอ้างเขาเป็นแม่หนูยิ้มแต่อ้างว่าไม่รู้ลูกตาย เขาก็บอกว่าเขาไม่มีส่วนรู้เห็นในบัญชี เขาอ้างว่าเขาไม่ได้รับเงิน ไม่รู้ว่าบัญชีที่เขาเปิดให้หนูยิ้ม แม่ปุ๊กเอาไปใช้”
เอมพูดคำนึงว่าไม่รู้ว่าลูกตาย แสดงว่าเอมเอาอมยิ้มให้ปุ๊กไปเลี้ยง ตอนตายเอมอ้างไม่รู้ แต่มีข้อความที่มีการพูดคุยระหว่างเอมกับแม่ปุ๊ก เขายืนยันว่ายังไง?
แม่ออย : “ในแชตอันนั้นคุกันเรื่องงานว่าจัดงานเรียบร้อยดี”
รณณรงค์ : “อันนี้แปลกมากเลย ถ้าผมโดนหมายเรียกฉ้อโกงประชาชนจะไปปิดบญชี ทำไมยังเปิดบัญชีใช้งานต่อมาเรื่อยๆ ตัวผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้ ไม่มีกฎหมายห้าม แต่ข้อเท็จจริงถ้ารู้อยู่แล้วว่าโดนคดีต้องปิดบัญชีนะ ตั้งแต่เด็กตายจนเหยื่อรายล่าสุด มันเกิดอะไรขึ้น แต่แชตที่ออกมาแสดงว่าติดต่อกันตลอดใช่มั้ย”
เขาบอกว่าน้องอิ่มบุญเป็นลูกน้องชาย เอาแต่ลูกชาวบ้านมาเลี้ยง แต่ในมุมนึงพ่อแม่ปุ๊กบอกว่าไม่จริง เพราะเขาเป็นคนพาลูกไปคลอด นี่คือลูกของปุ๊กแน่นอน ถ้าพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมาแล้วไม่ใช่ พ่อบอกว่าพ่อเหวอ ยืนยันไม่ได้มีส่วนรู้ส่วนเห็นใดๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้เรื่องมาก่อน ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย พี่มองยังไง?
รณณรงค์ : “เป็นเรื่องการค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์ไม่ชอบด้วยกฎหมายของเด็ก เอาเด็กมาทรมานเพื่อให้เด็กมีอาการทุรนทุรายและเอาภาพไปขอรับบริจาค ทำเป็นกระบวนการเพื่อหวังแค่เงิน ต้องขอบคุณอาจารย์หมอที่เห็นผิดสังเกตและมีการสอบสวนสืบสวนเรื่อยมา รวมถึงแม่ๆ ที่ทำให้เรื่องนี้มันปรากฎ เราสามารถช่วยเด็กๆ ได้ เพียงแค่เราแจ้ง เพราะเด็ก 2-3 ขวบเขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้”
พี่มองว่าเรื่องนี้เป็นการจัดฉาก?
รณณรงค์ : “ใช่ครับ เพื่อหวังเงินบริจาคอย่างดียวเลย ไม่งั้นไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะเอาสารเคมีให้เด็กกิน แล้วทำไมคุณต้องถ่ายคลิป มันรับไม่ได้กับเรื่องนี้ มันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ การทำร้ายร่างกายแล้วเอาเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกายมาทำให้คนสงสาร ให้คนบริจาคให้เหยื่อ อันนี้เราเรียกว่าการค้ามนุษย์”
โดนแจ้งความยังไง?
แม่เบน : “เราโพสต์ว่ามีมิจฉาชีพหลอกเอาลูกป่วยมาหากิน แม่บริจาคช่วยเหลือคนไม่ใช่แค่แม่ปุ๊กคนเดียว เสร็จแล้วคนที่เขาบอกว่าเป็นคนข้างบ้านแม่ปุ๊ก แอดเฟซมาและส่งข้อความมาบอกว่าสงสัยว่าแม่ปุ๊กจะทำร้ายลูก เพราะปกติน้องอิ่มบุญเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก อยู่ดีๆ ป่วยกะทันหัน ถึงขนาดเข้าไอซียู ม้นไม่ปกติ แล้วหมอตรวจพบสารเคมีในร่างกาย มันก็เลยทำให้เราเชื่อเลยว่าต้องมีอะไรซับซ้อน จากที่เราสงสัยว่าแม่ยิ้มก็ดูลึกลับ แล้วพออีกคนมาบอกว่าเป็นโรคเดียวกันอีก แล้วคนข้างบ้านก็บอกว่าหมอห้ามไม่ให้แม่ปุ๊กเยี่ยมด้วย เราก็เลยโพสต์ว่า วางยาลูก แค่ 3 คำ”
เขารู้เหรอ?
แม่เบน : “แม่ปุ๊กเขาก็มาคอมเมนต์เหมือนมาชี้แจง เรื่องอื่นเขาไม่ตอบ เรื่องโกงเรื่องอะไร แต่เรื่องลูกเขาบอกว่าเซนซิทีฟ ละเอียดอ่อน เขาจะไม่ให้ใครมาแตะต้องลูก หลังจากนั้นเขาก็เอาใบแจ้งความที่มีชื่อนามสกุลเราไปโพสต์หน้าเฟซเขา เขาส่งข้อความมาถามเบนว่าใครเป็นคนมาบอก เบนก็บอกว่าคนในหมู่บ้าน เขาพยายามจะถามชื่อค่ะ เขาลงเฟซคนข้างบ้านแล้วลงชื่อใบแจ้งความเป็นชื่อนามสกุลเรา ซึ่งตอนเราโพสต์เราโพสต์แค่ 3 คำไม่ได้ระบุว่าเป็นเขา แต่มีคนมาคอมเมนต์ ตร.บอกว่าเขาก็แจ้งความคนที่เมนต์คนที่แชร์”
น้องชายปุ๊กบอกว่าไม่ใช่ลูกเขา เพื่อนบ้านบางคนบอกว่าพ่อยังยืมเงินคนข้างบ้านไปทำงาน ร้อยสองร้อยบ้าง ไม่น่าจะรู้เรื่องแม่ปุ๊ก มองยังไง?
รณณรงค์ : “ต้องไปดูว่าหลังจากได้เงินแล้วเอาเงินไปให้ใครบ้าง เส้นทางการเงินตรวจสอบไม่ยาก อดีตก็เห็นมีการใช้กฎหมายฟอกเงินค้ามนุษย์อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว เช่น ยาเสพติดจะเห็นภาพชัด เขาได้เงินมาก็จำหน่ายจ่ายโอนให้คนรอบข้าง คนรอบข้างถ้าบริสุทธิ์ใจก็ต้องชี้แจงได้ว่าได้เงินมาจากการทำงานบริสุทธิ์ ไม่ได้ซับซ้อน จะรู้เห็นหรือไม่เด็กพูดไม่ได้นะครับ ต้องดูปัจจัยแวดล้อมมาประกอบ ยาตรวจได้มั้ยเป็นตัวไหน หลักฐานพอที่จะฟ้องมั้ย แต่การทำคดีความต้องฟังหมอเป็นหลัก หมอบอกว่าเขาถูกวางยาจะเอาอะไรอีก หมอมาปรักปรำเหรอ ไม่ใช่นะ เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ได้เงินบริจาค ไม่มีเหตุให้ต้องใส่ร้าย แถมหมอออกมาพูดแบบนี้หมอเสี่ยงด้วย เพราะต้องมาเปิดหน้า เป็นเคสมีความรุนแรงในครอบครัว หมอจะทำอย่างนั้นทำไม น่าสงสารเด็กมากนะครับ”
สองแม่อยากฝากอะไร?
แม่ออย : “ตอนนี้งดบริจาคทุกกรณีค่ะ อย่างที่บริจาคเราสงสารเด็ก กรณีนี้เอาความน่าสงสารของเด็กมาย่ำยี มากระทำ อย่างน้องยิ้มพอมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ลูกก็น่าสงสารพออยู่แล้ว แล้วเอาเขากระทำโดยเขาไม่ได้ป่วยไม่ได้อะไร เด็กคนนึงต้องเสียชีวิตไปอย่างเจ็บปวดทรมาน ถ้าเขาทำจริงเขาเลวมากๆ”
แม่เบนล่ะ?
แม่เบน : “อยากให้คนคิดบริจาคได้คิดว่าการที่เราทำบุญอาจเป็นการทำบาป อาจส่งเสริมมิจฉาชีพ”
คนเดือดร้อนจริงๆ ก็ลำบากเหมือนกันนะ?
รณณรงค์ : “ใช่ครับ มันกระทบมาก ฉะนั้นเคสนี้ต้องยึดทรัพย์สินเอามาให้หมด ให้เป็นตัวอย่าง คนอื่นที่คิดจะทำเหมือนกัน เห็นถูกยึดเงินยึดทองจะได้รู้ว่าบั้นปลายชีวิต สิ่งที่ได้มาจะถูกยึดด้วย นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้”
บัญชีหมุนเวียนเป็น 30 ล้าน?
รณณรงค์ : “ใครรับโอนไป ต้องยึดเอาคืนมาทั้งหมด ให้คนไทยหลายๆ คนที่เขาเป็นคนดีๆ เขาอยากบริจาคให้คนเดือดร้อน เขามั่นใจได้ว่าถ้าเจอมิจฉาชีพ หน่วยงานรัฐจะมาดูแล”
ได้ยินข่าวว่าแม่ปุ๊กกำลังขอเด็กอีกคนมาเลี้ยง?
แม่เบน : “2 คนค่ะ คนที่เขาไปตามทวงเงินแม่ปุ๊กที่บ้านเขาไม่ให้เข้าบ้าน และห้ามถ่ายรูป แต่คนนั้นสังเกตเห็นเสื้อผ้าเด็กตากอยู่ เป็นเสื้อผ้าเด็กอ่อน ไม่กี่เดือน”
มีเอามาอีก?
แม่เบน : “สงสัยว่าเอามาค่ะ เพราะไม่ใช่เสื้อผ้าน้องอิ่มบุญ มันเป็นก่อนหน้าที่เขาจะโดนจับค่ะ”
ทนายอยากบอกอะไร?
รณณรงค์ : “ถ้าพบเห็นเด็กที่ขอรับบริจาค เดือดร้อน น่าสงสาร สายด่วน 1300 โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจสอบว่าจริงมั้ย เดือดร้อนแค่ไหน มีเงินรักษาพยาบาลมั้ย ภาครัฐเขาจ่ายให้ฟรีหมดเลยนะครับ แต่ผู้ใหญ่อย่างเราต้องแจ้งเบาะแส ต้องช่วยกันโทรเข้าไป อย่าแค่บริจาคเงินอย่างเดียว”
น้องอิ่มบุญปลอดภัย จะกลับมาเหมือนเดิมมั้ย?
แม่ออย : “ก็ปกติแข็งแรงดีนะคะ แต่ก่อนหน้านี้น้องเหมือนหวาดกลัวแม่ ที่อ่านจากคุณหมอแจ้งมา น้องหวาดกลัวแม่ พอคุณแม่โทรเข้ามา เหมือนน้องจะกดวางสาย”
