โฆษกตร.แถลง สถิติอาชญากรรมร่วง หลังใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ฉ้อโกงออนไลน์พุ่ง

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย

โฆษกตร.แถลงภาพรวมอาชญากรรมลดลงทุกประเภท ทั้งเด็กแว้น นร.ตีกัน หลังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่ฉ้อโกงออนไลน์พุ่งสูงขึ้น เพราะคนอยู่บ้านสั่งขอแล้วไม่ได้ สินค้าไม่ตรงปก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. แถลงสถานภาพคดีอาชญากรรมในภาพรวมทั่วประเทศ หลังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมถึงปัจุบัน พบว่าหลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อาชญากรรมลดลงทุกประเภท

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เมื่อนำคดีอาชญากรรมทุกประเภทในห้วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เปรียบเทียบห้วงเวลาเดียวกันปี 2562 พบว่าประเภทความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย เพศ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญา ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าสถิติคดีอาญาที่เกิดขึ้นจากการเมาสุราแล้วมาก่ออาชญากรรม หรือเกิดอุบัติเหตุจราจรเนื่องจากการเมาสุรา รวมทั้งสร้างความเดือดร้อนรำคาญในลักษณะต่างๆ เช่น เด็กแว้น การแข่งรถในทาง นักเรียนตีกัน เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันในปี 2562 แล้วปรากฎว่าลดลงอย่างมากเช่นกัน

ขณะที่สถิติการจับกุมความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหายเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 25.77 เปอร์เซ็นต์ เป็นการจับกุมอาวุธปืน เพิ่มขึ้น 38.75 เปอร์เซ็นต์ และการพนัน เพิ่มขึ้น 25.74 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเชิงรุกเข้าชุมชนช่วงที่มีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งยังพบว่าคดีฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ฐานฉ้อโกงทางออนไลน์ พบการกระทำผิดเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา สาเหตุจากคนอยู่บ้านช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสั่งของออนไลน์แต่ได้สินค้าไม่ตรงปก หรือไม่ได้รับสินค้า ด้านสถิติการกระทำผิดของห้างร้านหลังประกาศปลดล็อคระยะ1 และ 2 นั้น ภาพรวม 90 เปอร์เซ็นต์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีเพียงบางส่วนที่ทำไม่ครบถ้วน ไม่สม่ำเสมอประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนฝ่าฝืนไม่ทำเลยมีตัวเลขค่อนข้างน้อยมาก

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า จากสถิติข้อมูลตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 จนถึงการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ และมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ จนมาถึงวันนี้ นอกจากประเทศไทยจะสามารถป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในปัจจุบันมีแนวโน้มลดต่ำลงแล้ว ในขณะเดียวกันการออกข้อกำหนดในการห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง การห้ามชุมนุมรวมกลุ่มในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และปราบปรามอาชญากรรมต่างๆ ที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างเข้มงวดและจริงจัง ยังทำให้อาชญากรรมต่างๆ ลดลงคู่ขนานไปด้วย

Advertisement

อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคทั้งในประเทศและต่างประเทศยังคงมีอยู่ หากผ่อนคลายมาตรการหรือยกเลิกมาตรการควบคุมโดยทันทีแล้ว อาจทำให้การระบาดกลับขึ้นมารุนแรงอีกครั้ง การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน โดยพิจารณาจากข้อมูลทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และความสงบเรียบร้อยของสังคม มาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ ยังคงมีความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ และขอยืนยันว่าตำรวจทุกนายจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยคำนึงถึงการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนไปพร้อมกัน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image