มติก.อ.ตั้งเลขาธิการอสส.มีผล1 ต.ค. ถอดโมเดลศาล เตรียมดันอัยการจังหวัดเทียบอธิบดี

“อรรถพล ใหญ่สว่าง”เผยมติก.อ.ผ่านตั้งเลขาสำนักงานอัยการสูงสุด มีผล 1 ต.ค.นี้ เผยเเนวคิดผลักดันมีมานานเข้าปรึกษาปธ.ศาลฎีกาถอดรูปเเบบโมเดลศาลยุติธรรม ประชุม ก.อ.วาระหน้าออกระเบียบอัยการจังหวัดเทียบระดับอธิบดีข้าราชการ ก.พ.ให้ “ม.ล. ศุภกิตต์”ศึกษาระเบียบ

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) ได้ออกข่าว ปธ.ก.อ.ลงในเว็ปเพจ ประธาน ก.อ. http://www2.ago.go.th/index.php/atthapol ระบุว่า “หลังจากที่พี่ได้กลับมาทำงานเพื่อองค์กรอัยการในฐานะประธาน ก.อ. ซึ่งได้ทำงานร่วมกับท่านอัยการสูงสุดและคณะกรรมการ ก.อ. ทุกท่านทำให้การทำงานที่ผ่านมาช่วยผลักดันการออกระเบียบต่าง ๆ ให้แก่ข้าราชการฝ่ายอัยการได้รับสิทธิประโยชน์ทัดเทียมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่นระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการธุรการสำนักงานอัยการสูงสุด (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2563 ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยวิทยุโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2563 และประกาศคณะกรรมการอัยการเรื่องการแบ่งหน่วยงานและการกำหนดอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานภายในของสำนักงานอัยการสูงสุด (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2563

และจากกระแสข่าวที่ทุกท่านได้รับทราบว่าจะมีการปรับโครงสร้างหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุดโดยกำหนดให้มีสำนักเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อให้เป็นหน่วยงานทางการบริหารงานช่วยการทำงานของท่านอัยการสูงสุดให้เกิดการขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งในความเห็นของพี่แล้วเห็นว่าเป็นการดีที่จะเกิดหน่วยงานนี้ แต่การกำหนดตำแหน่งให้ของเลขาธิการ รองเลขาธิการ และผู้ช่วยเลขาธิการนั้นควรที่จะให้โอกาสความก้าวหน้าตามความรู้ความสามารถของข้าราชการที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าของข้าราชการธุรการที่เป็นข้าราชการที่สนับสนุนการทำงานให้แก่พนักงานอัยการก็ควรได้มีความเติบโต

ซึ่งเห็นว่าหากมีการกำหนดโครงสร้างสำนักเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดขึ้นข้าราชการธุรการก็ควรจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการเป็นอย่างน้อยอย่างไรก็ดีการกำหนดโครงสร้างหน่วยงานและตำแหน่งนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งการพิจารณาของคณะกรรมการอัยการจะพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบเพื่อประโยชน์ขององค์กรอัยการต่อไปในอนาคตประเด็น

Advertisement

เรื่องที่สองที่อยากเล่าให้น้อง ๆ อัยการทุกท่านได้ทราบและคลายความกังวลใจในเรื่องการกำหนดตำแหน่งเทียบเท่าอธิบดีของข้าราชการกลาโหมและผู้พิพากษาหัวหน้าศาลนั้นพี่ได้มอบหมายเรื่องดังกล่าวให้ ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์(อัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย)ไปทำการศึกษาและทำความเห็นเสนอผู้บริหารตามลำดับชั้นถึงท่านอัยการสูงสุดเพื่อนำเสนอต่อ ก.อ. ออกระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการภายในสำนักงานอัยการสูงสุดที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ. … ต่อไปโดยมีหลักการสำคัญให้อัยการจังหวัดเทียบเท่าอธิบดี

ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์

ประเด็นเรื่องที่3.การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุดผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการอัยการพิเศษฝ่ายอัยการอาวุโสที่จะแต่งตั้งในรอบวันที่ 1 ตุลาคม 2553 คณะกรรมการอัยการจะพิจารณาจากความรู้ความสามารถของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ข้าราชการอัยการทุกท่าน

สุดท้ายพี่จะขอเรียนกับพนักงานอัยการข้าราชการธุรการให้ทุกท่านได้ทราบว่าการทำงานของพี่และคณะกรรมการอัยการจะทำงานให้แก่ข้าราชการฝ่ายอัยการและองค์กรแห่งนี้ให้เต็มกำลังความรู้ความสามารถสนับสนุนการทำงานของท่านอัยการสูงสุดเพื่อให้ข้าราชการฝ่ายอัยการได้มีความเจริญก้าวหน้าและเท่าเทียมกับข้าราชการอื่นทั้งในเรื่องหน้าที่การงานตำแหน่งและสวัสดิการต่าง ๆ ตลอดจนรักษาความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการฝ่ายอัยการทุกท่านด้วย

โดยนายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาในที่ประชุม ก.อ.มีการพิจารณาเรื่องประกาศคณะกรรมการอัยการเรื่องการแบ่งหน่วยงานและการกำหนดอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานภายในของสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ… เเละเรื่องประกาศคณะกรรมการอัยการเรื่องการกำหนดให้มีตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดรองเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดที่ปรึกษาระบบงานสำนักงานอัยการสูงสุดและผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. …ซึ่งจะส่งผลให้มีการยุบสำนักงานอัยการนโยบายยุทธศาสตร์และงบประมาณ และให้มีตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงรองเลขาธิการฯและผู้ช่วยเลขาธิการฯ ซึ่งในตำเเหน่งรองฯเเละผู้ช่วยฯจะเปิดให้ข้าราชการธุรการสามารถดำรงตำเเหน่งได้ โดยตำแหน่งเลขาธิการฯจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ภายหลังประกาศราชกิจจาฯแล้ว

“เรื่องที่จะเปิดให้มีตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดนี้ผมได้มีแนวคิดมาตั้งแต่สมัยขึ้นนำลงตำแหน่งประธานก.อ.ในช่วงเเรกๆและได้มีโอกาสไปเเสดงความยินดีเเละเยี่ยมคารวะ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกาสมัยที่ขึ้นดำรงตำเเหน่งใหม่ๆ พร้อมทั้งได้หารือของข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานศาลยุติธรรมเพื่อมาใช้ปรับในตำเเหน่งเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องโอนมาจากข้าราชการอัยการชั้น 5 (อัยการผู้เชี่ยวชาญ)ขึ้นไป ส่วนเรื่องที่จะมีการออกระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดให้ระดับอัยการจังหวัดเทียบกับข้าราชการพลเรือนในระดับอธิบดีจะมีการนำวาระนี้ในการเข้าประชุม ก.อ.ในครั้งหน้า”นายอรรถพลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image