‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ปฏิเสธทุกข้อหา หลังโดนจับพร้อมพวก ซิ่งจยย.บนถ.วิภาวดีฯฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ปฏิเสธทุกข้อหา หลังโดนจับพร้อมพวก ซิ่งจยย.บนถ.วิภาวดีฯฝ่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังสอบเสร็จเจ้าตัวเสียงอ่อยผิดจริง ไปขี่ในช่องทางด่วน แต่ไม่ได้รวมกลุ่มแว้น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 มิถุนายน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง
กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตำรวจ สน.วิภาวดี ว่าได้นำผู้ต้องหา 7 ราย มาคุมขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยหนึ่งในนั้นมีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หลังจากตำรวจ สน. วิภาวดี จับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ 7 คันที่ขับตามกันมาได้บริเวณโรงแรมรามาการ์เด่น ในช่องทางด่วน ถนนวิภาวดีรังสิต

อ่านรายละเอียดข่าวที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมจับเด็กแว้นบนถนนวิภาวดีฯ พบ”เบนซ์ เรซซิ่ง”ร่วมก๊วน

ต่อมาพ.ต.ท.พันษา อมราพิทักษ์ รองผกก.ศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต กล่าวว่าเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ขี่รถด้วยความเร็วมาจาก ถ.เทวฤทธิ์พันลึก เข้า ถ.วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าหลักสี่ เมื่อตำรวจเร่งติดตามจับกุม กลุ่มผู้ต้องหายังคงขี่รถด้วยความเร็วจนรถตำรวจเกือบจะไล่ตามไม่ทัน แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามบีบเส้นทางของกลุ่มจักรยานยนต์จนสามารถจับกุมทั้งหมดได้

ทั้งนี้ตำรวจได้ยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ทีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน 4กม51 กทม.ติดสติ๊กเกอร์ว่า “เบนซ์ เรซซิ่ง” ที่นายอัครกิตติ์ เป็นคนขับ,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีเทา ทะเบียน 8กษ 985 กทม.,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์แม็ก สีดำคาดเทา ทะเบียน 9กบ2532 กทม.,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ทีแม็กซ์ สีขาวทะเบียน อฬบ 777 กทม.,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์แม็ก สีขาวดำ ทะเบียน 9กต 51 กทม.,รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็กซ์แม็ก สีบรอนซ์เทา ไม่มีทะเบียน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ

Advertisement

ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมนายอัครกิตติ์ พร้อมผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายอัครกิตติ์ กล่าวสั้นๆว่า เรื่องทั้งหมดไม่มีอะไรมาก ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตอนนี้ขอให้การกับตำรวจก่อน แล้วจะชี้แจงภายหลัง

ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า หนึ่งในผู้ต้องหา 8 คน มีเยาวชนอายุ 14 ปี รายหนึ่งที่เป็นผู้ซ้อนรถจักรยานยนต์ ซึ่งคุมตัวได้แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น จึงต้องส่งศาลเยาวชนฟ้องก่อน ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ ส่วนเรื่องการประกันตัวต้องรอให้สอบปากคำเสร็จก่อนจึงจะพิจารณาดำเนินการอีกครั้ง โดยในวันพรุ่งนี้จะคุมตัวส่งศาลแขวงดอนเมืองฝากขังต่อไป

ต่อมานายอัครกิตติ์ กล่าวภายหลังให้ปากคำกับตำรวจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นพวกตนกำลังจะขับขี่จักรยานยนต์แยกย้ายกลับที่พักหลังไปทานอาหารกันเสร็จ ยอมรับว่าได้ทำผิดจริงที่ขี่รถในช่องทางด่วน แต่ปฏิเสธไม่ได้รวมกลุ่มอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงไม่ได้ขี่รถซิ่งหนีขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุม และเมื่อถูกจับพวกตนก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ยินยอมให้ตรวจสำเนารถ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image