เสี่ยไอทีตกงาน ฉุนแฟนคุยกับหนุ่มอื่น ร่วมมือกับกิ๊กสาวทำร้ายร่างกายปางตายแล้วสร้างกันเรื่องโยนบาปให้คนอื่น
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ว่า พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะสิริ ผกก.สส.บก.น.5 นำกำลังจับกุม นายชนฑิภักร หรือพีท ญานนิลภงค์ อายุ 38 ปี ชาว จ.ตรัง ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 423/2563 ลงวันที่ 20 มิ.ย.63 ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต 595 ลำปาง โดยจับกุมตัวได้กลางซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมานายชนฑิภักร ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับ น.ส.สุพัตรา หรือตาล ป้องคำศรี อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ ทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลนิสา หรือชล อาลัยกลาง อายุ 25 ปี อาชีพเทรนเนอร์ประจำฟิตเนสย่านพร้อมพงษ์ เหตุเกิดที่ห้องพักย่านบางจาก ท้องที่ สน.พระโขนง แล้วผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้พา น.ส.ชลนิสา ในสภาพหมดสติ เบ้าตา 2 ข้างและใบหน้าบวมปูด ไปส่งที่ รพ.กล้วยน้ำไท โดยนายชนฑิภักร ซึ่งกำลังคบหาอยู่กับ น.ส.ชลนิสา ได้สร้างเรื่องบอกแพทย์และติดต่อกับญาติของ น.ส.ชลนิสา ว่าฝ่ายหญิงแอบนอกใจไปมีชายอื่นและถูกฝ่ายชายผู้เป็นมือที่สามทำร้ายร่างกายมา
ต่อมาแพทย์วินิจฉัยอาการของ น.ส.ชลนิสา พบว่าตามร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักหลายแห่ง โดยเฉพาะก้านสมองได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้ารับการผ่าตัด ขณะที่นายชนฑิภักร และ น.ส.สุพัตรา ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เป็นเหตุให้ญาติๆ ต้องเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานทั้งในห้องพักที่เกิดเหตุและสถานที่ทำงานของผู้เสียหายพบว่า ผู้ลงมือก่อเหตุคือนายชนฑิภักร โดยมี น.ส.สุพัตรา ช่วยเหลือนำร่างผู้เสียหายไปส่งโรงพยาบาลและช่วยสร้างเรื่องหลอกญาติๆ พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลออกหมายจับทั้ง 2 ราย กระทั่ง น.ส.สุพัตรา ถูกตามจับกุมตัวไว้ได้ก่อนในย่านอ่อนนุช และติดตามจับกุมตัว นายชนฑิภักร ได้ขณะหลบหนีมากบดานในซอยสุขุมวิท 49
สอบสวนนายชนฑิภักร ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที แต่พิษโควิด-19 ทำให้ต้องเลิกกิจการ วันเกิดเหตุลงมือทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลนิสา แฟนสาวที่เพิ่งคบหากันได้สักระยะจริง เพราะความหึงหวงที่จับได้ว่าเจ้าตัวไปพูดคุยกับชายอื่น จึงทุบตีและเอาศีรษะโขกพื้นไปหลายครั้งจนหมดสติ จากนั้นจึงเรียก น.ส.สุพัตรา แฟนอีกคนมาที่ห้องช่วยนำร่าง น.ส.ชลนิสา ขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล และช่วยแต่งเรื่องว่า น.ส.ชลนิสา ถูกชายคนอื่นทำร้ายร่างกายมา พอถึงโรงพยาบาลแล้วตนยังได้ถ่ายภาพคู่กับ น.ส.ชลนิสา ซึ่งหมดสติอยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนแยกย้ายกับ น.ส.สุพัตรา ต่างคนต่างหลบหนีโดยได้เช่ารถยนต์ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต 595 ลำปาง ซึ่งถูกยึดเป็นของกลาง จากบริษัทรถเช่าเอาไว้ขับเที่ยว กระทั่งสัญญาเช่ารถหมด จึงถอดจีพีเอสติดรถออกและขับรถจากลำปางกลับมากรุงเทพฯ และขโมยป้ายทะเบียนรถหมวดจังหวัดกรุงเทพของชาวบ้านมาใส่เพื่อหลบหนีการติดตามจากบริษัทรถเช่า และตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นแจ้งข้อหานายชนฑิภักร ตามหมายจับก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดี
