มาอีก! แห่แจ้งความ ‘จีจี้ ปีโป้’ หลอกขายทองไม่ตรงปกเสียหายนับ 10 ล้านบาท

มาอีก! แห่แจ้งความ ‘จีจี้ปีโป้’ หลอกขายทองไม่ตรงปกเสียหายนับ 10 ล้านบาท พบบัญชีโอนเงินมากกว่า 1 ฉบับ คาดทำกันเป็นขบวนการ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) น.ส.หัทยา อั้นเต้ง ทนายความพร้อมนายอคิน (สงวนนามสกุล) ตัวแทนผู้เสียหายกว่าหลายสิบราย แจ้งความกับพ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ.ให้ดำเนินคดีนายธีรชัย คงทอง หรือ “จีจี้ ปีโป้” กรณีไลฟ์สดหลอกขายทองรูปพรรณคุณภาพต่ำกว่าที่โฆษณาผ่านทางเพจเฟซบุ๊กจนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินสั่งซื้อจนเกิดความเสียหายหลักสิบล้านบาท

นายอคินกล่าวว่า หลังผู้เสียหายแจ้งความที่ปอท.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังคงมีไลน์อวตารแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มผู้เสียหายเพื่อคอยสอดส่องกิจกรรมภายในกลุ่ม และยังคงมีผู้เสียหายทยอยแสดงตัวเข้ามาเรื่อยๆ วันนี้จึงรวบรวมผู้ที่ยังไม่แจ้งความ เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.เนื่องจากมีอำนาจดำเนินการทางกฎหมายโดยตรง ส่วนตัวจีจี้ ปีโป้นั้น หลังแจ้งความแล้วก็ออกมาชี้แจงผ่านสื่ออย่างเดียว ยังคงไม่ปิดเพจหนีไปแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อทองกับจีจี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ได้ทองไม่ตรงตามที่ซื้อขาย เช่น สั่งซื้อทอง 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับได้ 96.5 เปอร์เซ็นต์ 2.โอนเงินแล้วแต่ไม่ได้รับทอง และ 3.สั่งซื้อทองในราคาสูงแต่ขายต่อได้ราคาต่ำกว่าปกติ หากจะขอคืนเงินร้านจะหัก 15 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าจะขายสินค้าคืนร้านจะหัก 30 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

น.ส.หัทยากล่าวว่า จากความผิดที่ปรากฎจึงจะแจ้งความนายธีรชัย ใน ข้อหานำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขายสินค้าเกินราคา ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งบางรายยังถูกนำเครื่องประดับเพชรพลอยปลอมมาหลอกขายอีกด้วย

พ.ต.ท.ปริญญากล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าตอนนี้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 รายเข้ามาแจ้งความกับ ปคบ.ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลเท็จฯ สำหรับสินค้าประเภทเครื่องประดับมีค่า หากนำไปตรวจสอบวัสดุและน้ำหนักแล้วพบว่าสินค้ามีคุณภาพไม่ตรงตามที่ระบุไว้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค

พ.ต.ท.ปริญญากล่าวว่า จากหลักฐานที่ปรากฎ พบว่าบัญชีที่ใช้สำหรับรับโอนเงินจากผู้เสียหายมี 2 บัญชี เล่มหนึ่งเปิดในนามบริษัท และอีกเล่มเปิดในนามบุคคลแต่ไม่ใช่นายธีรชัย ซึ่งคาดว่าอาจจะเปิดม้ากดเงิน จึงเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ หลังจากนี้ตำรวจ ปคบ.จะประสานข้อมูลกับโรงพักแต่ละท้องที่ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ก่อนออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบความผิดต่อไป โดยผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เร่งรัดติดตามคดีอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และผู้ถูกกล่าวหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image