ศาลให้ไกล่เกลี่ย ผกก.ท่องเที่ยวยื่นฟ้อง’บิ๊กโจ๊ก’ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ ปมคดีพาผู้ต้องหาหนีไปลาว(คลิป)

ศาลให้โอกาสไกล่เกลี่ย ผกก.ท่องเที่ยวยื่นฟ้อง’บิ๊กโจ๊ก’ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ ปมดำเนินคดีพาผู้ต้องหาหนีไปลาว นัดเคลียร์ 4 ส.ค.อนุญาตสืบพยานลับหลัง

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 กรกฎาคม ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ 2699/2562 พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ ผกก.1 บก.ทท.2 ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)ในความผิดฐาน ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะฟ้องโจทก์เป็นตำรวจ ตำแหน่งผู้กำกับ(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.จชต.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

โดยคดีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2554 จำเลยกระทำผิดอาญาโดยเจตนานำคดีอาญามาฟ้องโจทก์อันเป็นเท็จต่อศาลอาญา ในข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันก่อ, ใช้ สั่งการ ก่อ ใช้ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีกล่าวหาโจทก์ว่าพา นายเขตสยาม เนาวรังสี เจ้าของร้านคาราโอเกะ จำเลยตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม หลบหนีคดีไปยังประเทศลาว โดยมีการพูดจาทำให้เกิดความเข้าใจผิด

โดยจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อศาลอาญาตามคำให้การพยานของจำเลย ต่อมาเมื่อ 29 มี.ค. คดีอาญาหมายเลขดำ ที่อ.2826/2554 ศาลอาญาได้มีคำสั่งว่าฟ้องของโจทก์ในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์ข้อหาความผิดข้อหาหรือฐานความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสารเท็จ และข้อหาหมิ่นประมาทจำเลยนั้นฟังไม่ได้ว่าโจทก์จะได้กระทำความผิดตามที่จำเลยระบุในฟ้อง ฟ้องโจทก์กรณีดังกล่าวจึงไม่มีมูล

Advertisement

หลังจากนั้น จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลอาญา ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2557 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์กับพวก และคดีถึงที่สุดแล้ว เหตุตามฟ้องคดีนี้เกิดขึ้นที่ศาลอาญา แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตามกฎหมาย เนื่องจากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีเอง

โดยนัดตรวจหลักฐานวันนี้ โจทก์ไม่ได้เดินทางมาศาลส่งทนายโจทก์ผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาศาล ส่วนพล.ต.ท.สุรเชษฐ์จำเลยเดินทางมาศาลพร้อมทนายความ

โดยคดีนี้ฝ่ายโจทก์เสนอบัญชีพยาน 3 ปาก จำเลย 3 ปาก ศาลอนุญาตสืบพยานฝ่ายละ3ปากตามที่ร้องโดยให้ระยะเวลาสืบคู่ความฝ่ายละ1วัน เเต่ศาลเห็นว่าคดียังสามารถที่จะเจรจากันได้จึงถามความประสงค์คู่ความ ซึ่งคู่ความทั้ง2ไม่คัดค้าน จึงกำหนดวันนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 4 ส.ค.เวลา 10.00 น.ถึงค่อยพิจารณากำหนดวันนัดสิบพยานโจทก์หรือไม่ โดยทนายความโจทก์ยืนยันว่าในวันนัดเจรจาไกล่เกลี่ยโจทก์จะเดินทางมาศาลด้วยตนเอง

ส่วนคำร้องที่จำเลยขอพิจารณาคดีลับหลังหากมีการนัดสืบพยานเนื่องจากจำเลยเป็นข้าราชการต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาต


QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image