เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรมการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำหนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามการแข่งรถในทาง จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มเด็กแว้นที่มีพฤติกรรมขับขี่รถก่อความเดือดร้อนรำคาญ และอาจนำไปสู่การแข่งรถในทาง มักจะใช้รถจักรยานยนต์มีท่อไอเสียดัดแปลงให้มีเสียงดัง และไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดยจะหาซื้อท่อไอเสียที่ไม่มี มอก. มาจากแหล่งต่งๆ รวมทั้งการสั่งซื้อผ่านทางสื่อโชเชียลออนไลน์ต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก แอพพลิเคชั่นไลน์, เว็บไชต์ ชึ่งมีการโฆษฌาจำหน่ายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ โดยส่วนใหญ่เป็นท่อไอเสียที่ไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพต่ำ ไม่ได้รับการรับรองหรือผ่านการทดสอบคุณภาพมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสหกรรม(สมอ.) และส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคโดยตรง
เจ้าหน้าที่ ศปข.ตร. บก.ปคบ. บช.ภ.2 จึงทำการล่อซื้อตัวอย่างท่อไอเสียจากเว็บไชต์ หรือโซเชียลต่างๆ เพื่อดำเนินการติดตามสืบสวนขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. นำหมายศาลเข้าค้นสถานที่เก็บและจำหน่ายท่อไอเสียรถ จยย. ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 2 จุด จุดแรกโกดังไม่มีเลขที่ ซอยชลเจริญ 3 หมู่ที่ 6 ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จุดที่สองอาคารพาณิชย์เลขที่ 207/4 หมู่ที่ 6 ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้งสองจุดเป็นเป้าหมายจากการสืบสวนขยายผล
พบนายบรรจง พลชาลี อายุ 34 ปี สัญชาติไทย แสดงตนเป็นผู้ดูแล และเป็นผู้นำการตรวจค้น พบว่าเป็นสถานที่ผลิต เก็บและจำหน่ายอุปกรณ์ อะไหล่ตกแต่งรถจักรยานยนต์ พบพนักงานกำลังทำการผลิตท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ โดยมีอุปกรณ์ครื่องมือ/เครื่องจักร ที่ใช้ในการผลิตท่อไอเสียรถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก และพบท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเสร็จแล้วรอส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป โดยไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จึงตรวจยึดอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ ทั้งหมด 14 รายการ จำนวน 883 ชิ้น 12 เครื่อง เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
