“ศรีสุวรรณ”ร้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน คำสั่งปลดฟ้าผ่า พนง.องค์การค้าของสกสค.ไม่ชอบด้วยก.ม.

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ศาลปกครอง ถ.เเจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งผู้อำนวยการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. และคณะกรรมการ สกสค. ที่มีคำสั่งปลดพนักงาน สกสค. จำนวน 961 คน และขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ก่อนมีคำพิพากษา ด้วยการระงับคำสั่งปลดที่จะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมไว้ก่อน

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผิดระเบียบคณะกรรมการ สกสค. ที่กำหนดว่าการบอกเลิกการปฏิบัติงานของพนักงานจะต้องมีเหตุตามกฎหมาย และเหตุสำคัญที่สามารถเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดได้ คือยกเลิกหน่วยงาน ส่วนการเลิกจ้างอื่นๆให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น มีคดีความทางอาญา หรือสร้างความเสียหายให้องค์กร แต่การสั่งปลดเจ้าหน้าที่จำนวนมากในระเบียบของสกสค.ไม่ได้กำหนดไว้ จึงถือว่าการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ ผอ.สกสค. และคณะกรรมการ สกสค. และขอความเมตตาศาลให้ไต่สวนฉุกเฉินภายในวันนี้ (30 ก.ค.) หรือวันที่ 31 ก.ค. เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวจะบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้
“จึงเป็นเหตุที่เร่งด่วน เพราะพนักงานต่างมีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีภาระส่งเงินเข้ากองทุนฌาปนกิจ และสหกรณ์ สกสค. ซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างเป็นลูกโซ่ ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาดูแลพนักงานทั้งหมด ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งมีหลายกรณีที่รัฐบาลก็เข้ามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่รัฐบาลเข้ามาช่วยการบินไทย โดยรัฐบาลก็จัดการช่วยเหลือไม่ให้เลิกจ้างพนักงาน แต่ สกสค.กลับให้ ผอ.สกสค.มาใช้อำนาจปลดพนักงาน” นายศรีสุวรรณกล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า สบสค.เป็นองค์กรที่อยู่ในการกำกับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ผลิตตำราเรียนมาอย่างยาวนาน และก่อนหน้านี้ก็ทำกำไรนับพันล้านบาท แต่เมื่อส่งนักการเมืองเข้ามาบริหาร ก็ทำให้ สกสค.เกิดภาวะขาดทุน เนื่องจากผู้บริหารผ่องถ่ายการพิมพ์ตำราเรียนให้ภายนอกรับไปพิมพ์งาน หรือส่งต้นฉบับให้ สบสค.จัดพิมในระยะเวลากระชั้นชิด แล้วก็อ้างว่าโรงพิมพ์ สกสค.ดำเนินการไม่ทันเวลา จึงทำให้เอกชนไปพิมพ์ โดยมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงทำให้งานพิมพ์ไม่มีกำไร อีกทั้งงานพิมพ์แต่ละชุดมีค่าตอบแทนหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้การโบ้ยให้พนักงานเป็นรับผิดชอบแทนจึงไม่เป็นธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image