ศาลฎีกานักการเมือง จำคุก’ทักษิณ’5 ปี คดีแปลงค่าสัมปทานเอื้อชินฯ

ศาลฎีกานักการเมือง จำคุก’ทักษิณ’5 ปี คดีแปลงค่าสัมปทานเอื้อชินคอร์ป รวมจำคุกคดีเก่าทั้งหมด 10 ปี

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ได้ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อายุ 71 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 เป็นจำเลยตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.51 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152,157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ,100 ,122

กรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพาสามิต ด้วยการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพาสามิต ( พ.ศ.2527) พ.ศ.2546 เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2551 ซึ่งเคยถูกจำหน่ายออกจากสารบบความชั่วคราวเพราะตัวจำเลยหลบหนีคดีโดยจำเลยถูกออกหมายจับตามขั้นตอนไปแล้ว ขึ้นมาพิจารณาต่อไป ตามกระบวนพิจารณา มาตรา 28 พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) ฉบับใหม่ พ.ศ.2560 ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วจำเลยไม่มาศาลและได้ออกหมายจับแล้ว ถ้าไม่สามารถจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือนนับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะตั้งทนายความมาดำเนินการแทนตนได้ และไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะมาต่อสู้คดีเมื่อใดก็ได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา

ศาลพิพากษาให้ลงโทษฐานเป็นจนท.รัฐเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยของของรัฐ จำคุก 2 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี รวมเป็นจำคุก 5 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 (คดีเอ็กซิมแบงก์) และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 (คดีหวยบนดิน) ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก อนึ่ง ในวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับจำเลยมาเพื่อบังคับตามคำพิพากษาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกนายทักษิณคดีเอ็กซิมแบงก์เป็นเวลา 3 ปี และคดีหวยบนดินเป็นเวลา 2 ปี และล่าสุดคดีแปลงค่าสัมปทานเอื้อชินคอร์ปนี้ พิพากษาจำคุก 5 ปี รวมเป็นนายทักษิณถูกจำคุก 10 ปี โดยไม่รอลงอาญา (ส่วนคดีที่ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกคดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำคุก 1 ปี หมดอายุความไปเเล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image