ญาติยันไม่เคยรู้ ‘จารุชาติ มาดทอง’ เป็นพยานปากเอกพลิกคดี ‘บอส อยู่วิทยา’

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอกคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และนายจารุชาติได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ในช่วงคืนวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าภายหลังจากทางญาติได้รับศพกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีของชาวล้านนาที่บ้านเกิดเลขที่ 255 หมู่บ้านวังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย โดยในวันนี้นางตา วังมูล อายุ 76 ปีมารดาพร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างร่วมกันจัดทำข้าวต้มมัด เทียน พริก บุหรี่ เกลือ ห่อหมากพลู ฯลฯ อย่างละ 100 ห่อ และตุงสีแดงเพื่อพร้อมด้วยพระสงฆ์ พากันเดินทางไปประกอบพิธี ณ สถานที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้นายจารุชาติเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 1 ส.ค.นี้และเครื่องใช้สำหรับพิธีฌาปนกิจให้กับนายจารุชาติ ซึ่งทางญาติมีกำหนดที่จะพิธีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคมที่จะถึงนี้ที่สุสานภายในหมู่บ้าน

ทั้งนี้งานศพของนายจารุชาติได้จัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามหลักศาสนาพุทธตามความเชื่อของชาวล้านนา ซึ่งจะมีการประกอบพิธีทางศาสนาจำนวน 3 คืนนิมนต์พระสงฆ์มาสวดอภิธรรมเพื่ออุทิศส่วนกุศล ส่วนศพนั้นจะใส่โลงเย็นไว้ก่อนเพื่อป้องกันร่างเน่าเปื่อย เนื่องจากการที่นายจารุชาติได้ออกไปทำงานนอกหมู่บ้านตั้งแต่วัยเยาว์และนานครั้งจะกลับมาเยี่ยมบ้านทำให้ที่บ้านไม่มีแม้แต่รูปถ่ายของนายจารุชาติที่จะติดตั้งหน้าโลงศพ แต่ทางญาติก็พยายามจัดพิธีศพให้กับนายจารุชาติเป็นครั้งสุดท้ายให้ดีที่สุด ขณะที่ทรัพย์สินที่ญาตินำกลับมาจาก จ.เชียงใหม่พบว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นโดยเป็นกระเป๋าเสื้อผ้า ถุงพลาสติก หม้อหุงข้าว พัดลม ฯลฯ เท่านั้น ทั้งนี้ช่วงคืนที่ผ่านมามีรายงานว่าทาง พ.ต.อ.ธาตรี กุลวัฒน์ ผกก.สภ.พาน ได้พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมงานศพและสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากนายสมานและนางตาซึ่งก็พบว่าทั้งคู่ไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับการไปเป็นพยานในคดีนายวรยุทธดังกล่าวแต่อย่างใด

นางตา กล่าวว่ายังคงยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยทราบเลยว่าบุตรชายไปเป็นพยานในคดีใดๆ เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ฟัง เพียงแต่ทราบว่าเขาได้ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ มาโดยตลอด โดยออกจากบ้านไปตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น และอาจจะไปทำงานที่ต่างประเทศเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนซึ่งตนก็จำเดือนและปีได้ไม่ชัดเจน กระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจเพราะเดิมคิดว่าเขาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ก็มาเสียชีวิตที่เชียงใหม่แล้วดังกล่าว ขณะที่เหตุการณ์เมื่อปี 2555 นั้นตนจำไม่ได้จริงๆ ว่าอยู่ที่ไหนโดยสงสัยว่าอาจจะอยู่ต่างประเทศแต่ไม่ชัดเจนมากนักเพราะเหตุการณ์ผ่านมานานหลายปีแล้ว ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นของบุตรชายเช่นบัญชีธนาคารหรืออย่างก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่เพราะไม่ทราบที่อยู่และที่ทำงาน และไม่เคยเรื่องส่วนตัวให้กับทางครอบครัวได้ทราบเลย

ด้าน น.ส.ตะวันฉาย มาดทอง อายุ 15 ปี บุตรสาวของนายจารุชาติ กล่าวว่า ตามปกติพ่อจะโทรศัพท์ไปหาตนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งซึ่งก็มักจะสอนให้ดูแลหลานและปู่ย่าให้ดีเท่านั้นโดยไม่ได้พูดคุยเรื่องการทำงานหรือการไปเป็นพยานใดๆ ส่วนการเดินทางไปทำงานตามที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศนั้นตนจำไม่ได้เพราะเมื่อปี 2555 นั้นตนยังเด็กอยู่ ตนไม่ค่อยได้เจอพ่อบ่อยนักเจอครั้งสุดท้ายเมื่องานครบรอบวันเกิดของเดือนเมื่อวันที่ 5 เดือนมิถุนายน ปีที่แล้วเท่านั้น จากนั้นก็โทรศัพท์คุยกันอย่างเดียว โทรมาครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรกับตนเลย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image