“อรรถพล”ปธ.ก.อ.เปิดขั้นตอนสอบวินัยอัยการ ยังไม่รู้ อสส.ตั้งสอบรองฯเนตร เตรียมถามในที่ประชุม ก.อ. 18 ส.ค.นี้

บอส อยู่วิทยา – เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) กล่าวถึงเรื่องขั้นตอนการดำเนินการสอบวินัยข้าราชการอัยการ ว่าเรื่องนี้ขั้นแรกคือขั้นตอนการสอบสวนชั้นต้นเพื่อ ดูว่ามีการกระทำความผิดวินัยหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดวินัยแล้วก็จะต้องมีการสอบสวนวินัย โดยในการสอบสวนวินัย อัยการสูงสุดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดสามารถที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยได้เลย และเมื่อคณะกรรมการดังกล่าวสอบสวนวินัยได้ประการใดแล้วขั้นตอนต่อไปจะต้องส่งมาที่สำนักงานคณะกรรมการอัยการ ว่าสอบสวนถูกต้องหรือไม่ ถ้าการสอบสวนวินัยแล้วผลออกมามีความเห็นว่าไม่ได้กระทำความผิดก็จะต้องสั่งยุติเรื่องไป แต่ถ้าผลสอบออกมาว่ามีการกระทำความผิดวินัยจริงก็จะเสนอก.อ.เพื่อพิจารณา กรณีที่กล่าวมาหมายถึงเป็นวินัยไม่ร้ายแรง แต่ถ้าผลการสอบสวนชั้นต้นตามที่ อสส.ตั้งเห็นว่าเป็นกรณีการกระทำความผิดวินัยร้ายแรง อสส.จะยังตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงเองไม่ได้จะต้องส่งให้คณะกรรมการอัยการเป็นคนตั้งกรรมการสอบสวนเอง

ส่วนในตอนนี้มีการตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นเเล้วหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะการตั้งกรรมการสอบชั้นต้นในทางปฏิบัติ อสส.จะต้องเป็นผู้พิจารณาตั้งกรรมการก่อนที่จะส่งมายัง ก.อ.เเต่ถ้าเป็นเรื่องประชาชนสนใจ จะถามในที่ประชุม ก.อ.วันที่ 18 ส.ค.63 นี้ว่าผลเป็นอย่างไรมีการตั้งกรรมการสอบสวนเบื้องต้นที่จะสอบสวนวินัยหรือไม่ เพราะคณะทำงานสอบสวนที่ได้ตั้งขึ้น 7คนเเละได้เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ไม่ได้รับมอบอำนาจในการสอบเรื่องนี้ จึงต้องเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวขึ้นเเต่คณะทำงานเป็นใครขึ้นกับ อสส.พิจารณา

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับดุลพินิจของ นายเนตร นาคสุข รอง อสส.ซึ่งมีอาวุโสสูงรองจากอัยการสูงสุด คุณสมบัติกรรมการที่จะสอบสวนต้องคุณสมบัติอย่างไร

นายอรรถพล กล่าวว่าคุณสมบัติต้องไม่ต่ำกว่ารอง อสส.ผู้ถูกสอบ ซึ่งรอง อสส.เเต่ละคนมีเงินเดือนเท่ากันสามารถเป็นประธานคณะทำงานได้ส่วนกรรมการสามารถอาวุโสต่ำกว่าได้หรืออัยการสูงสุดสามารถมานั่งเป็นประธานเองก็ได้

Advertisement

นายอรรถพล กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของ ก.อ.ในเรื่องนี้ว่า มีอำนาจหน้าที่ที่จะตั้งอนุกรรมการหรือคณะบุคคลให้มาดำเนินการอย่างไรก็ได้โดยเฉพาะเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา30(4) เเต่ ก.อ.จะตั้งหรือไม่ ตนขอดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะ อสส.อาจจะมีการตั้งกรรมการสอบเบื้องต้นอย่างที่กล่าวมาเเล้วก็ได้ เเต่ทาง ก.อ.ยังไม่ทราบ

เมื่อถามถึงกรณีที่ ปธ.ก.อ.มีความเห็นว่าการกลับคำสั่ง ของนายเนตร ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตรงนี้หากมีการอ้างว่าสั่งในฐานะทำการเเทน อสส.จะมีผลเหมือน อสส.สั่งเองเเละมีผลเป็นคำสั่งไม่ฟ้องคดีหรือไม่

นายอรรถพล กล่าวว่า การที่นายเนตร รอง อสส.ได้รับการแบ่งงานจากอัยการสูงสุดให้ดูแลงานเรื่องการรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเเล้วได้สั่งการในฐานะรองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมาย หรือปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุดไม่ถือว่ามีอำนาจ แต่ถ้านายเนตรสั่งขณะที่รักษาการณ์เเทนอัยการสูงสุดจะมีอำนาจ ส่วนคดีนี้จะเป็นการสั่งในสถานะใดตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่จากข่าวที่ปรากฎออกมานั้นไม่ได้บอกว่านายเนตรสั่งในฐานะรักษาราชการเเทน ตนจึงได้ทำหนังสือเรียนอัยการสูงสุดเพื่อได้ทราบว่ากรณีเช่นนี้หากนายเนตรมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและกลับคำสั่งไม่ฟ้องจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ถ้ามีเอกสารว่านายเนตรเสนอไปยังอัยการสูงสุดก่อนว่าจะมีการสั่งสอบเพิ่มเติม ก็จะเป็นการที่อัยการสูงสุดเห็นชอบในการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมเเล้ว หากนายเนตรมาสั่งให้กลับคำสั่ง เเบบนี้ถึงชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนประเด็นที่ตนเสนออัยการสูงสุดว่าคำสั่งของนายเนตรอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเเละคดียังมีผลเป็นคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยาตามคำสั่งของ อธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ต้องขึ้นกับอัยการสูงสุดเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าอัยการสูงสุดเห็นด้วยก็ให้แจ้งความเห็นไปยังพนักงานสอบสวนหรือทาง สตช.เพื่อให้ดำเนินการต่อโดยไม่ต้องถอนหมายจับนายวรยุทธ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image