เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 4 คดี รวม 13 ราย ยึดของกลางยาบ้า 6 แสนเม็ด ไอซ์ 60 กก.และยาอี 3 พันเม็ด
พล.ต.ต.วัชระกล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายจะโบ หล่อยะ อายุ 48 ปี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี และ ด.ช.ซี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 6 แสนเม็ด รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ผจ 2179 เชียงราย รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ผฉ 7155 เชียงราย ได้ที่ถนนชนบทเลขที่ 1249 กม.8-9 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังชุดจับกุม บก.ปส.3 สืบทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดลอบลำเลียงยาเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยขับรถกระบะ 2 คัน ตามกันมามุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง ก่อนมาจอดริมถนนเพื่อรับสิ่งของต้องสงสัย ชุดจับกุมจึงแสดงตัวตรวจค้นรถทั้งสอง พบยาเสพติดของกลาง จึงยึดไว้พร้อมแจ้งข้อหานายจะโบ กับนายเอ ฐานร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ส่วนเยาวชนทั้งสองรายนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฝาง สำหรับพฤติการณ์ก่อเหตุของ ด.ช.วัย 14 ปี ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์นำเพื่อคอยดูต้นทางให้รถกระบะ ซึ่งระยะหลังพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดหันมาใช้เด็กเป็นเครื่องมือมากขึ้น
พล.ต.ต.วัชระกล่าวอีกว่า คดีที่ 2 จับกุมนายอำพล ตรีสุวรรณ อายุ 25 ปี และ น.ส.สิวาลัย แสงมะณี อายุ 25 ปี พร้อมของกลางยาอี 3,000 เม็ด จับกุมนายอำพลได้ที่หน้าไปรษณีย์ลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง จับกุม น.ส.สิวาลัย ได้ที่สนามพรีเมียมเอาท์เลตกรุงเทพ จ.สมุทรปราการ ภายหลังชุดจับกุมตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศมีลักษณะต้องสงสัยส่งมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อแกะค้นพบว่าเป็นชั้นใส่รองเท้าและผ้าคลุมโต๊ะซุกซ่อนยาเสพติดดังกล่าวจึงสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันนำยาเสพติดประเภท 1 (เอ็กซ์ตาซี) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายและมีไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี สอบสวนนายอำพล อ้างว่ามีคนจ้างให้ตนไปรับพัสดุดังกล่าวในราคา 1,000 บาท ซึ่งทำครั้งแรก และไม่รู้จักกับคนว่าจ้างมาก่อน
พล.ต.ต.วัชระกล่าวอีกว่า คดีที่ 3 จับกุมนายไทย์ เชอมือ อายุ 28 ปี นายประชา หมื่อปู อายุ 30 ปี นายวรเดช พรถาวรกุล อายุ 34 ปี นายสมชาย ชื่นนันทชัย อายุ 33 ปี และนายสมชัย มาเยอะ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 50 กก.รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ได้ที่หลักกิโลที่ 2 ถนนร่องขุ่น-สวนดอก ต.ป่าอ้อดอนไชย อ.เมือง จ.เชียงราย แจ้งข้อหาร่วมกันมีไอซ์ไว้ครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย หลังสืบทราบว่ามีคนร้ายลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยขับรถวนเวียนใน อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนเข้าสกัดจับกุมได้ที่สุดขยายผลตรวจยึดรถยนต์ของผู้ต้องหาอีก 3 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน โต๊ะสนุกเกอร์ และโทรทัศน์ รวมค่ากว่า 1 ล้านบาท
พล.ต.ต.วัชระกล่าวว่า คดีที่ 4 จับกุมนายชานน ทองบุญเทียน อายุ 22 ปี และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 10 กก.รถจักรยานยนต์ 2 คัน จับกุมนายชานน ได้ที่หน้าธนาคารย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ และจับกุมนายเอ ได้ที่ห้างสรรพสินค้า ถนนรามอินทรา เขตบางเขน กรุงเทพฯ แจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีมีไอซ์ไว้ครอบครองเพื่อขาย หลังสืบทราบว่านายชานน จะนัดส่งมอบยาเสพติดที่ลานจอดรถห้าง ก่อนพบว่ามีผู้ลักลอบนำกระสอบพลาสติกต้องสงสัยมาวางริมถนนซอยนาคนิวาส 7 แล้วขับรถหลบหนีอย่างรวดเร็ว เมื่อตรวจค้นในกระสอบพบยาเสพติดดังกล่าวจึงเร่งติดตามจับกุมนายชานน และนายวัฒชัย ขณะรอรับเงินค้ายาเสพติด
พล.ต.ท.ชินภัทรกล่าวว่า นับตั้งแต่มีโรคโควิดแพร่ระบาด พบว่ามีการนำยาเสพติดซุกซ่อนผ่านพัสดุที่ส่งจากต่างประเทศเข้ามาอยู่ตลอด หลังจากนี้ บช.ปส.จะขยายผลสืบสวนหาตัวผู้สั่งการทั้งหมดพร้อมยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการ เพื่อขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก สำหรับยาอี ส่วนมากพบว่ามาจากทวีปยุโรป ซึ่งถูกนำมาขายให้กับผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพในไทย ที่ผ่านมา บช.ปส.ก็จับกุมเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดได้หลายครั้งแล้ว พบว่ามีอายุน้อยลงเรื่อยๆ บางส่วนพบว่าเป็นพวกที่เคยก่อคดีมาแล้ว ต้องฝากเตือนไปยังผู้ปกครองของเยาวชนให้ดูแลบุตรหลานอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด