เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ต.ท.กำธร นิยม สว.(สอบสวน)สน.สายไหม รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตภายในบ้านเช่า ซอยเพิ่มสิน 34 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.จึงรุดไปพร้อม พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม ฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ บริเวณห้องโถงชั้นล่างพบศพนายเอกชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี สภาพศพนอนตะแคงซ้าย ขาพาดศพ น.ส.ปวีณา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี มีผ้าห่มนวมคลุมทั้งร่าง สภาพศพทั้งสองมีน้ำลายฟูมปาก ตามร่างกายไม่พบบาดแผล ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สันนิษฐานเสียชีวิตมาประมาณ 15 ชั่วโมง บนโต๊ะใกล้ศพพบกระป๋องเบียร์ และเครื่องดื่มอื่นๆ หลายกระป๋อง พบจดหมายลาตาย 4-5 แผ่น ใจความว่า “สรุปแล้วมันแบบนี้ใช่ไหมงั้นเราแบ่งกันกินคนละครึ่ง ตายไปด้วยกัน เราไม่แยกจากกัน” และฝ่ายชายยังบอกลูกที่เกิดกับภรรยาเก่าว่า “พ่อไปก่อนแล้วนะ”
สอบสวนทราบว่านายเอกชัย มีอาชีพรับเหมาทั่วไป ปัจจุบันรับเหมาอยู่ที่ จ.เพชรบุรี เคยมีภรรยาและลูกสาว 1 คน ต่อมาก่อนเลิกรามาคบหากับ น.ส.ปวีณา ช่วงศึกษาระดับปริญญาตรีที่สถาบันแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายส่งเสียค่าเล่าเรียนจนจบการศึกษา และมาทำงาน 2 ปีที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งทั้งคู่มาเช่าบ้านหลังที่เกิดเหตุเกือบ 10 ปีแล้ว ก่อนแต่งงานกัน ฝ่ายชายจะเดินทางไปมาระหว่าง จ.เพชรบุรี กับกรุงเทพมหานคร ช่วงแรกทั้งสองรักใคร่กันดีจนเริ่มมีเรื่องระหองระแหงกัน เนื่องจากฝ่ายหญิงมีผู้ชายคนใหม่ และต้องการจะเลิกกับฝ่ายชาย เคยนัดฝ่ายชายไปที่บ้าน จ.สุรินทร์ ให้พ่อแม่ช่วยบอกเลิกอ้างว่า ฝ่ายหญิงมีชายคนใหม่แล้วและไม่ยอมรับฝ่ายชายที่มีอายุกว่าฝ่ายหญิง ประกอบกับเคยมีภรรยาและลูกมาแล้ว จึงไม่ยอมรับกีดกั้นไม่ให้คบหากัน ทำให้ฝ่ายชายตัดสินใจจะเลิกกับฝ่ายหญิงและเลิกเช่าบ้านหลังดังกล่าว ก่อนนัดให้ญาติมาช่วยย้ายของช่วงสายกระทั่งพบศพดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาส่วนตัว
