ผบช.น.ระบุ นายกฯไม่ได้สั่งจับแกนนำ แต่ตร.จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย เผยเวทีอนุสาวรีย์ปชต. 16 ส.ค.ไม่เข้าข่ายความผิด ม.112 ,116 เดินหน้ารวบ 12 ชื่อ หมายจับเวที 18 ก.ค.
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวภายหลังเข้าประชุมภาพรวมการชุมนุมประชาชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ว่า มีการแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ในภาพรวมก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับคำปราศรัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผิดกฎหมายหรือไม่
กรณีกลุ่มแกนนำที่มีหมายจับเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำการจับกุมนั้น ตนได้รับแจ้งจาก พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมาเมื่อสอบถาม ทางพล.ต.ต.เมธี ระบุว่า เนื่องจากเป็นยามวิกาล และมีบุคคลจำนวนมาก เกรงว่าการดำเนินการตามหมายจับจะไม่เกิดความสงบเรียบร้อย และอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น จึงตัดสินใจยังไม่ดำเนินการ แต่ยืนยันว่าจะทำตามกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้มีผู้ถูกออกหมายจับจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม จำนวน 15 คน จับกุมและแจ้งข้อหาไปแล้ว 3 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่าพฤติการณ์ของ นายอานนท์ นำภา ทนายความ ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ทราบว่าศาลได้นัดไต่สวนแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เป็นผู้ยื่นคำร้องไป ส่วนกรณีของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่มาร่วมชุมนุมเมื่อวานนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าได้ทำผิดเงื่อนไขของศาลหรือไม่ หากเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขของศาลก็จะนำเรียนศาลไต่สวนพิจารณาต่อไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า การแสดงออกทางการชุมนุม ดำเนินการได้แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เรื่องมาตรการควบคุมโรค และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวก รักษาความสงบ และรักษาความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ขณะชุมมีการพบวัตถุต้องสงสัย ตำรวจได้มีการรักษาความปลอดภัย และ ความสงบอยู่แล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้จัดกิจกรรม และ ผู้มาทำกิจกรรมด้วย
ส่วนกรณีทวิตเตอร์แชร์ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องตัดสัญญานนั้น ทาง ผบช.น. ระบุว่า เมื่อวานนี้มีโดรนบินขึ้น ซึ่งพื้นที่บริเวณนั้นเป็นเขตห้ามบิน เรื่องการใช้โดรนได้มีการใช้เครื่องมือบังคับโดรนลงมาและมีการดำเนินคดีไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน ซึ่งหากทำกิจกรรมในกรอบกฎหมายก็ไม่มีอะไร เวลาแจ้งการชุมนุม ทางเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะจะแจ้งข้อกำหนดต่างๆ ให้ผู้จัดรับทราบ หากผู้ชุมนุมดำเนินการตามประกาศ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ก็ไม่เป็นการคุกคามอะไร เพราะตำรวจไม่สามารถดำเนินการอะไรที่เกินเลยข้อกฎหมายได้
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้สั่งให้ตำรวจจับกุมแกนนำแต่ตำรวจไปจับกุมเอง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่าก็ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะนายกฯ จะมาสั่งว่าให้ไปจับกุมใคร คงไม่สั่งแบบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นดำเนินการตามกฎหมาย ก็ขอให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ทั้งนี้การเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมืองเมื่อวาน ส่วนตัวมองว่าไม่เข้าข่าย มาตรา 112 และมาตรา 116 โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดใด
ส่วนการนัดชุมนุมในครั้งหน้านั้นทางตำรวจไม่ได้ห้ามการชุมนุม เพราะไม่สามารถห้ามหรืออนุญาตได้ ถือว่าเป็นสิทธิ์แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งผู้จัดกิจกรรมจะต้องแจ้งกับสถานีตำรวจในพื้นที่ว่าจะมีการชุมนุมทุกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอธิบายให้ทราบว่าการชุมนุมปฏิบัติตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.บ.การควบคุมโรค อีกทั้งต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น