ศาลสั่งเเก้ฟ้อง ทนายเจมส์ นำแม่-น้องเก้า ฟ้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้า-ดนตรีกรรม ให้ถูกต้องภายใน 7 วัน
เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายเกริกพล หรือเก้า เพชรรัตน์ มอบอำนาจให้ มารดา ที่เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม ยื่นฟ้อง น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ หรือเจนนี่ และบริษัท ได้หมดถ้าสดชื่น จำกัด จำเลยที่ 1-2 เรื่องความผิดต่อ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 โดยศาลรับคำร้องไว้ไต่สวน ในคดีหมายเลขดำ อ.716/2563
พร้อมมีคำสั่งว่าตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์แยกประเภทงานอันมีลิขสิทธิ์ ระหว่างงานดนตรีกรรมกับงานโสตทัศนะวัสดุต่างหากจากกัน เมื่อมีการนำงานดนตรีกรรมไปบันทึกเป็นมิวสิควิดีโอย่อมถือเป็นงานโสตทัศนะวัสดุ จึงให้โจทก์ยืนยันให้ชัดเจนว่า โจทก์กล่าวอ้างความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานประเภทใดส่วนสิทธินักแสดงนั้นให้โจทก์บรรยายให้ชัดเจนว่าโจทก์มีสิทธิเเต่เพียงผู้เดียวในการกระทำเกี่ยวกับการแสดงของงานครั้งใดอย่างไร โดยให้โจทก์แก้ฟ้องให้ชัดเจนถูกต้องภายใน 7 วันนับตั้งเเต่วันนี้
นายนิติธร แก้วโต หรือทนายเจมส์ เปิดเผยภายหลังยื่นฟ้องว่า วันนี้ยื่นฟ้องใน 2 ฐานความผิดคือ ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้าแสวงหาผลกำไรนักร้องนักแสดง และละเมิดดนตรีกรรม กรณีมีการบันทึกเสียงของเก้าและนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้ความยินยอม ส่วนที่อ้างว่าให้ค่าจ้าง 1 หมื่นบาทนั้น เงินจำนวนนี้ไม่ใช่ค่าตัวนักแสดงแน่นอน เพราะน้องเก้ามีชื่อเสียง เป็นเดอะวอยส์คิส แต่จะเป็นการจ้างทำหรือไม่ขอให้ศาลชี้ เพราะแต่ละฝ่ายถือความจริงคนละชุด ทั้งนี้ การฟ้องครั้งนี้ไม่ได้ยื่นประเด็นส่วนแบ่ง 70/30 ให้ศาลพิจารณา ซึ่งเป็นกรณีที่จะดำเนินการหลังจากนี้ แต่ระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ตลอด หากเจรจากันลงตัวก็จะไม่ฟ้องทางแพ่ง โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่เป็นตัวกลางติดต่อเจรจาแต่ไม่สามารถตกลงกันได้
นายนิติธร กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องยื่นเรื่องให้ยูทูปไทยตรวจสอบลิขสิทธิ์และเปิดเผยรายได้จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ หากมีการลบคลิปเพลงแล้วยูทูปไทยอาจจะเรียกผลประโยชน์ที่ได้รับคืนด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ศาลจะส่งหมายเรียกพร้อมสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โดยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และกำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 9 พ.ย.นี้ โดยตนจะนำนายเกริกพล หรือน้องเก้า และแม่ขึ้นไต่สวน
ด้านนายเกริกพล หรือน้องเก้า ยืนยันว่า เงิน 1 หมื่นไม่ใช่ค่าจ้าง แต่เป็นค่าขนม และพี่เจนนี่ก็พูดชัดเจนก่อนตั้งค่ายเพลงว่าจะให้ส่วนแบ่ง 70/30 เมื่อไม่ได้เงินตามที่ตกลงก็รู้สึกเจ็บใจ ตนนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกับพี่เจนนี่ ถ้าติดต่อมาเจรจาก็ขอให้คุยกับทางผู้ใหญ่หรือทนาย ต้องการให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว และไม่กลัวฝ่ายตรงข้าม
