“รสนา”ยื่น ปธ.กอ.หนุนตั้ง กก.สอบวินัย “เนตร นาคสุข”สั่งไม่ฟ้องคดีบอส อยู่วิทยา

“รสนา”ยื่น ปธ.กอ.หนุนตั้ง กก.สอบวินัย “เนตร นาคสุข”สั่งไม่ฟ้องตัดตอนคดี”บอส” ลั่นใครโหวดล้มตั้งสอบอีกเจอ 157 “อรรถพล”รอระเบียบประกาศราชกิจจาฯออกลุยเต็มที่ผดุงความเป็นธรรมรักษาชื่อเสียงองค์กร

บอส อยู่วิทยา – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ส.ค. 2563 ที่ห้องรับรองประธานคณะกรรมการอัยการ ชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. และ น.ส.บุญยืน ศิริธรรม เอ็นจีโอด้านสิทธิผู้บริโภค เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด กรณีการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง

น.ส.รสนา เปิดเผยว่า จากที่ท่านอรรถพลได้ออกหนังสือบันทึกข้อความ 6 ข้อ ตนเห็นด้วย อัยการที่สั่งฟ้องออกหมายจับถูกต้อง การที่นายเนตร รองอัยการสูงสุด กลับคำสั่งเป็นประเด็นที่ไม่ถูกต้อง ด้วยความจริงปรากฏว่า กรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมายฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำกระบวนการเปลี่ยนข้อเท็จจริง เหมือนทำสำนวนส่งเข้ามาโดยไม่มีอำนาจ สร้างพยานหลักฐานความเร็วรถจากเรื่องขอความเป็นธรรม ซึ่ง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อดีตอัยการสูงสุด รับฟังพิจารณาแล้วไม่หักล้างข้อเท็จจริงที่ออกหมายจับไปแล้ว เมื่อมีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาอีกในยุคนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด ก็มีจดหมายยืนยันไปยัง สนช. ว่าไม่สามารถหักล้างข้อเท็จจริงได้

น.ส.รสนา กล่าวต่อไปว่า การที่นายเนตรกลับคำสั่งเป็นไม่ฟ้องขณะที่เป็นอธิบดีอัยการ เป็นการตัดตอนคดีให้ไม่ถึงศาล จึงขอให้ประธาน ก.อ. ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย หลังจากที่การตั้งคณะกรรมการสอบดุลพินิจไม่ผ่าน แต่การสอบวินัยสามารถทำได้ ประชาชนให้ความสำคัญกับระบบยุติธรรม ถ้าหากคดีถูกตัดตอนได้จากคนที่คนเนกชั่นดี ร่ำรวย ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม หวังว่าคนอื่นจะไม่โหวตล้มอีก ถ้าล้มจะหาช่องทางฟ้องข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป

Advertisement

“ฝากความหวังไว้กับนายอรรถพลที่จะผดุงความเป็นธรรม เพื่อที่จะรักษาสถาบันอัยการให้ศักดิ์สิทธิน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม”นางรสนากล่าว

นายอรรถพลกล่าวว่า ตอนนี้ระเบียบในการสอบวินัยข้าราชการอัยการระดับรองอัยการสูงสุดได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) เมื่อวันที่ 18 ส.ค.63ที่ผ่านมาเเล้ว ซึ่งตนในฐานะประธาน ก.อ.ได้ลงนามเพื่อรอประกาศราชกิจจานุเบกษาในขณะนี้ ถ้าหากมีการประกาศราชกิจฯเเล้วก็สามารถที่จะตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นได้ โดย อสส.เป็นผู้มีอำนาจเเต่งตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นนี้ ถ้าผลการสอบปรากฎว่าการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบข้อเท็จจริงเเละพยานหลักฐานเรื่องก็จบ เเต่ถ้าผลสอบออกมาไปเข้ากรณีการกระทำผิดวินัยก็จะต้องดูต่อว่าเป็นวินัยอย่างไร เป็นวินัยร้ายเเรงหรือไม่ โทษจะเเตกต่างกัน บอกได้เลยว่าตอนนี้ไม่ต้องห่วงถ้ามีการประกาศราชกิจจาฯซึ่งเราทำหนังสือส่งด่วนที่สุดเเล้ว มีการตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นเเบบเต็มรูปเเบบซึ่งสามารถพิจารณาได้ทุกเรื่อง ถ้าระเบียบฯดังกล่าวประกาศทันวันที่ 9 ก.ย.63 ซึ่งเป็นวันประชุม ก.อ.ก็สามารถให้ดำเนินการสอบสวนชั้นต้นได้ทันที โดยในการสอบสวนเราต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย จะต้องเเจ้งรายละเอียดให้ผู้ถูกสอบทราบว่าจะต้องสอบเรื่องไร เเละผู้ถูกสอบสามารถนำพยานหลักฐานมาหักล้างได้เช่นเดียวกันกับการดำเนินคดีในศาลหรือของพนักงานสอบสวน

ส่วนกรณีนายเนตรยื่นหนังสือลาออกหากยังไม่ได้มีการตั้งสอบวินัย จะทำให้ไม่สามารถตั้งสอบวินัยได้อีก เเต่ข้อเท็จจริงทราบว่าทางอัยการสูงสุด(อสส.)ยังไม่ได้เซ็นอนุญาตลาออก ซึ่งตามกฎหมาย อสส.สามารถยับยั้งได้3เดือน

Advertisement

นายอรรถพล กล่าวว่าหลังจากนี้จะดูรายละเอียดเอกสารที่ได้รับเข้ามาในฐาน ประธาน ก.อ.ถ้าตนพิจารณาเเล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการอัยการเป็นคนดูเรื่องนี้

ส่วนเรื่องการยืนยันความเห็นที่เคยกล่าวว่าการสั่งฟ้องคดีนายวรยุทธ ยังมีผลอยู่เนื่องจากคำสั่งกลับไม่ฟ้องของนายเนตร รอง อสส.ไม่ชอบนั้น ตนในฐานะประธาน ก.อ.เคยออกความเห็นข้อกฎหมายดังกล่าวไปก็ถูกโจมตีว่าชี้นำ ตอนนี้ขั้นตอนถึงที่เรากำลังจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนชั้นต้นเเล้ว หากตนออกความเห็นขึ้นมาอีกจะถูกกล่าวหาว่าชี้นำจึงยังไม่ขอออกความเห็นตรงนี้ เเต่ถ้าหากกรรมการสอบชั้นต้นสอบเสร็จเเละเข้าที่ประชุม ก.อ.หลังจากนั้นตอบได้ทุกเรื่อง

“เรื่องนี้เหมือนไกลตัว เเต่ความเป็นธรรมอาญาเราต้องดูสังคม ถ้าสาธารณะหรือสังคมกระทบกระเทือน ทุกคนก็กระทบกระเทือนหมด จะพยายามใช้ความรู้ความสามารถเต็มที่ เเต่ที่ผ่านมาพอเปิดเผยว่าจะทำอะไรถูกข้อครหาว่าชี้นำ เเต่ผมจะดูให้เกิดความเป็นธรรมเเม้กระทั่งการดำเนินคดีนี้ในอนาคต ในใจรู้ว่าเราควรมีข้อเเนะนำอย่างไรเเต่ขอดำเนินการในทางลับ ต้องยอมรับในสังคมไทยในคดีอาญาจะมี2ด้าน ผมพูดไปฝ่ายหนึ่งบอกดีผดุงความเป็นธรรมอีกฝ่ายบอกเเทรกเเซง ทั้งที่ประธาน ก.อ.ไม่ได้มีอำนาจในทางบริหารเรื่องคดีเเต่ขอยืนยันต่อหน้าทุกคนว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเเละรักษาองค์กร”ปธ.ก.อ.กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image