กทม.เฮ ศาลปกครองกลางยกฟ้อง กรณีบ.“ลาภประทาน”-“ทับทิมทร”เจ้าของอาคารสูงซ.ร่วมฤดี ฟ้อง

ศาลปกครองกลางพิพากษา ยกฟ้องบริษัท “ลาภประทาน-ทับทิมทร” เจ้าของอาคารสูงซอยร่วมฤดี ฟ้องกรุงเทพมหานคร แก้เกี้ยวอ้างละเลยปล่อยให้รุกเขตทางสาธารณะประโยชน์ ชี้รังวัดใหม่ก็เหมือนเดิม ไม่พบมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวเขตทางสาธารณะ

เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ศาลปกครอง ถ.เเจ้งวัฒนะศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่บริษัทลาภประทาน จำกัด และบริษัท ทับทิมทร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารสูงโรงแรมดิเอทัส บางกอก 24 ชั้น และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ดิเอทัส เรสซิเดนซ์ 18 ชั้น ในซอยร่วมฤดี กรุงเทพ ที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินการควบคุมรื้อถอนเนื่องจากก่อสร้างผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ยื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และกรุงเทพมหานคร ว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการกับเจ้าของที่ดินแปลงที่ 99 และเลขที่ 100 ที่ก่อสร้างแนวรั้วรุกล้ำเขตทางสาธารณะประโยชน์ในซอยร่วมฤดี

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วเห็นว่า ตามรายงานผลการรังวัดสอบเขตของกรมที่ดินที่ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นในคดีก่อน ระบุว่าเขตทางสาธารณประโยชน์ในซอยร่วมฤดีมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร รวมทั้งสิ้น 8 จุดรวมถึงที่ดินแปลงพิพาททั้งสองแปลง ซึ่งศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกันกับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นในคดีก่อน ข้อเท็จจริงจึงรับฟังเป็นที่ยุติในคดีนี้ด้วยว่า เขตทางสาธารณะในซอยร่วมฤดีบริเวณที่ดินแปลงเลขที่ 99 และเลขที่ 100 ไม่ได้มีเขตทางกว้าง 10 เมตรตลอดแนว

ส่วน ผอ.เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ละเลยไม่ดูแลรักษาที่สาธารณะ ซอยร่วมฤดี บริเวณที่ดินพิพาท 2 แปลงนี้ ตามมาตรา 89 วรรคหนึ่ง(10) ประกอบมาตรา 90 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร 2528 หรือไม่ ฟังได้ว่าที่สาธารณะซอยร่วมฤดีบริเวณที่ดินแปลงเลขที่ 99 และเลขที่ 100 ติดเขตทางสาธารณะกว้างไม่ถึง 10 เมตร ประกอบกับในคดีนี้ศาลได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพดำเนินการรังวัดโฉนดที่ดินเลขที่ 3542 เลขที่ 99 และโฉนดที่ดินเลขที่ 3574 เลขที่ดิน 100 เพื่อตรวจสอบว่าที่ดินทั้งสองแปลงมีการก่อสร้างรุกล้ำเขตทางสาธารณะประโยชน์ซอยร่วมฤดีหรือไม่ ณ.อาคารสถานที่พิพาท โดยมีผู้ฟ้องคดีทั้งสอง ผู้ถูกฟ้องคดี และผู้ร้องสอดทั้ง 9 ร่วมรังวัดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 โดยเจ้าของที่ดินโฉนดนำชี้แนวเขต ซึ่งจากการรังวัดยังฟังไม่ได้ว่าที่ดินทั้งสองแปลงมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ รุกล้ำแนวเขตทางสาธารณะในซอยร่วมฤดี นอกเหนือจากแนวเขตทางตามผลการรังวัดในคดีก่อน

Advertisement

เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่า ตลอดแนวเขตทางสาธารณะในซอยร่วมฤดี โดยเฉพาะบริเวณที่ดินแปลงที่ 99 และเลขที่ 100 ได้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือกระทำการอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการรุกล้ำแนวเขตทางสาธารณะในซอยร่วมฤดีเพิ่มขึ้นจากแนวเขตทางเดิม ผอ.เขตปทุมวันและกรุงเทพมหานคร จึงไม่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาที่สาธารณะนอกแนวเขตในซอยร่วมฤดี หรือใช้อำนาจหน้าที่เรียกคืนเขตทางสาธารณะในซอยร่วมฤดี ส่วนอื่นนอกเหนือจากแนวเขตทางสาธารณะที่ศาลรับฟังเป็นที่ยุติในคดีก่อน จึงฟังไม่ได้ว่า ผอ.เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครละเลยต่อหน้าที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image