เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ต.อ.พงศ์จักร จักษุรักษ์ ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวถึงกรณีกลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ จัดกิจกรรมทุบกะลาตาสว่าง บริเวณ รร.บดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี ในวันนี้ว่า ตามที่มีภาพปรากฎในโลกออนไลน์ว่ามีรถลากของ สน.วังทองหลาง ไปจอดปิดประตูรั้วหน้าโรงเรียนนั้น โรงพักได้รับการประสานจากโรงเรียนว่าจะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านจราจรตำรวจจึงต้องจัดรถลากเข้ามาประจำจุดไว้ เนื่องจากซอยรามคำแหง 43/1 มีความคับแคบ ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยได้มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล 4 ร่วมกับ สน. วังทองหลางคอยดูแลความสงบเรียบร้อยรอบบริเวณ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้จัดได้มาแจ้งจัดกิจกรรมไว้แล้ว แต่เนื่องจากสถานที่ที่ผู้จัดใช้ทำกิจกรรมนั้นเป็นพื้นที่ของเอกชน จึงต้องไปขอใช้สถานที่กับเจ้าของเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มผู้จัดได้ใช้สนามตะกร้อตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนเป็นสถานที่จัดกิจกรรมซึ่งมีสำนักงานเขตวังทองหลาง เป็นผู้ดูแลในการพัฒนาพื้นที่ไม่ให้เป็นสถานที่รกร้าง โดยในเวลา 16.00 น.เริ่มมีศิษย์เก่าและปัจจุบัน รร.บดินทรฯ ทยอยกันเดินทางมารอเข้าร่วมกิจกรรมแล้วหลายสิบคน โดยมีคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงเรียน คอยสังเกตการณ์
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของ รร.บดินทรฯ ได้โพสต์ประกาศแจ้งหยุดเรียนโดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมดังกล่าว
หนึ่งในแกนนำกลุ่มบอดินไม่ทนเผด็จการ กล่าวว่า จุดยืนการชุมนุมในวันนี้ ยืนตาม 3 หลักของกลุ่มนักเรียนเลว คือ หยุดคุกคามนักเรียน ปฏิรูปการศึกษา และยกเลิกระบบล้าหลัง โดยได้รวมตัวกันจากศิษย์ปัจจุบันทั้ง 6 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี ทั้งนี้ การที่โรงเรียนตน สั่งหยุดการเรียนการสอน 1 วัน โดยอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากการชุมนุมนั้นทำให้เราผิดหวังมากๆ เพราะเราไม่ได้จัดในเวลาเรียน และการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ตอนแรกตั้งใจจะจัดกิจกรรมภายในโรงเรียน แต่เนื่องจากทราบอยู่แล้วหากขอจัดกิจกรรม ก็คงไม่ได้รับการอนุญาต เรื่องนี้มีอาจารย์บางคนทราบแล้ว แทนที่โรงเรียนน่าจะเป็นที่ปลอดภัยในการแสดงออกอย่างเต็มที่ของเรา สำหรับการซื้อเวลาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็นับเป็นเรื่องที่ทำให้ผิดหวังมากเช่นกัน คิดว่าผู้ที่ทำงานอยู่ในสภาจะเห็นหัวประชาชนมากกว่านี้
ต่อมา กลุ่มนักเรียนข้ามถนนนำหนังสือด่วนที่สุด ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเปิดพื้นที่ให้สถานศึกษาในการแสดงความคิดเห็นภายใต้หลักการและกรอบกฎหมายกำหนดไว้ ไปแปะตามป้ายหน้าโรงเรียน ประตูรั้วและตามผนัง โดยมีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกจราจร กันรถไม่ให้ผ่านตอนที่นักเรียนข้ามถนน
