จู่โจม”บริษัททัวร์”อีกแห่ง แฉคนจีนสวมชื่อคนตายลักลอบเปิด ไล่เช็กไกด์เถื่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. นายสุธรรม เดชดี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายโสภณ บำเทิงเวชช์ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ กรมสรรพกร เจ้าหน้าที่ ปปง. เจ้าหน้าที่ทหาร ร.1 พัน.2 รอ. และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ร่วมกันตรวจค้น บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 370/8 ชั้น 7 อาคารสุภัทรา ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง เพื่อขยายผลและตรวจสอบบริษัททัวร์ที่คนจีนใช้วิธีสวมบัตรประชาชนคนไทยขออนุญาตเปิด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นการขยายผลจากการจับกุมบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด ตั้งอยู่ภายในอาคาร เค.เอส.แอล.ทาวเวอร์ บริเวณชั้น 11 ห้องเลขที่ 503/19 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย ประกอบด้วย นางธวัล แจ่มโชคชัย อายุ 59 ปี ชาวไทย กรรมการผู้จัดการ และ ชาวจีนไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุ 57 ปี กรรมการผู้จัดการ จากการตรวจสอบพบว่า ชาวจีนวัย 57 ปี ลักลอบสวมบัตรประชาชนคนไทยโดยใช้ชื่อ นายสมเกียรติ คงเจริญ เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 เพื่อใช้ในการจดทะเบียนและ เปิดบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทย และยังปรากฏชื่อนายสมเกียรติ เป็นผู้บริหารของ บริษัทซินหยวน ทราเวล จำกัด ประกอบกิจการทัวร์ ท่องเที่ยวเช่นเดียวกับบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ซินหยวน เปิดมาตั้งแต่ปี 2558 มีนายสมเกียรติ เป็นกรรมการผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ตามกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าหากไม่ใช่คนไทยแต่เป็นคนต่างชาติจะมีสิทธิ์เป็นผู้ถือหุ้นไม่เกินกึ่งหนึ่งเท่านั้น ถือเป็นการทำธุรกรรมที่ช่อฉล ทั้งนี้ ปปง.จะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ เพื่อดูว่ามีอำนาจยึดทรัพย์หรือไม่

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เป็นการทำทัวร์ที่ไม่นำรายได้เข้าประเทศเพราะฉะนั้นความเสียหายมีอยู่2ส่วน คือ1.ในทัวร์ประเภทดังกล่าวมีแต่ปริมาณนักท่องเที่ยวสูง วันละ 20,000 กว่าคนแต่รายได้ไม่เข้าประเทศ ประเทศไทยเสียรายได้ส่วนนี้ไป 2.การทำทัวร์ราคาต่ำแบบนี้ เอาเปรียบบริษัททัวร์คนไทยด้วยกัน วันนี้ต้องขอบคุณภาคเอกชนที่แจ้งเบาะแสมา ถ้าหากพบทัวร์ในลักษณะเช่นนี้สามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1155

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนพบว่า ชื่อของนายสมเกียรติ ถูกนายธวัล นำมาสวมให้กับเพื่อนชาวจีน เพื่อร่วมกันเปิดบริษัททัวร์2แห่ง สำหรับนายธวัลนั้น มีประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการสวมบัตรประชาชนคนไทยให้กับคนจีนมานานแล้ว เพื่อช่วยให้คนจีนได้เข้ามาเปิดบริษัททำธุรกิจในประเทศไทย นอกจากนี้ยังพบว่านายธวัล ยังเกี่ยวข้องกับการสวมบัตรให้ตัวการใหญ่ของบริษัท ยูฟัน ซึ่งเป็นคนจีน และยังพบพฤติกรรมว่ามีการโอนย้ายชื่อของคนจีน ที่สวมบัตรคนไทยเข้าทะเบียนบ้านจำนวนมาก ในส่วนนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป

Advertisement

ด้านนายสุธรรม กล่าวว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวในวันนี้ จะดูเรื่องใบอนุญาต บริษัทนี้มีใบอนุญาตของกรมการท่องเที่ยวอย่างถูกต้องในนามของนายสมเกียรติ และจะดูเรื่องของมัคคุเทศก์เถื่อน(ไกด์เถื่อน) เอกสารการเคลียร์บิลของไกด์ รายชื่อไกด์ที่ทำงานในบริษัท พร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์และบัตรประชาชน เพื่อเปรียบเทียบว่าเป็นคนไทยจริงหรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมายอาชีพมัคคุเทศก์นั้นสงวนไว้ทำหรับคนไทยเท่านั้น ส่วนการจะเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการหรือไม่นั้น ต้องรอผลยืนยันที่แน่ชัดว่ามีการใช้ชื่อนายสมเกียรติ มาสวมบัตรให้ชาวจีน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image