เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และสมาชิกกลุ่มประชาชนปลดแอก ที่บริเวณคาเฟ่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ว่า
การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการรับเรื่องร้องทุกข์และศาลได้ออกหมายจับ ต่อมาได้มีการสืบสวน และพบตัวผู้กระทำผิด โดยสถานที่ที่จับกุมนั้นเป็นร้านกาแฟกึ่งร้านอาหาร ไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด โดยขณะเข้าจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจโดยยังได้ให้เวลา มายด์ในการตามทนายความ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ในเรื่องของการขอเลขบัญชีของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ทางมายด์กล่าวอ้างนั้น อาจเป็นเรื่องของการประกันตัว ทั้งนี้ยืนยันการจับกุมเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ส่วนการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดีที่ยังมีเนื่องจากเป็นการกระทำผิดไปแล้วไม่สามารถยกเลิกได้ ซึ่งเป็นไปตามขบวนการ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหาก็ต้องดำเนินการจับกุมมิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะมีความผิดละเว้นหน้าที่ตาม ม.157
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีผู้กระทำผิดคดีที่เกี่ยวกับฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนในโลกออนไลน์นั้นหลังยกเลิกพ.ร.ก.ก็ยังมีพ.ร.บ.คอมฯ ที่ยังอยู่ หากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับข่าวสารอันเป็นเท็จ ขณะที่การดูแลความสงบของการชุมนุมหลังไร้พ.ร.ก.แล้วนั้น ทางตำรวจจะยึดหลักกฎหมาย นิติธรรม เป็นสำคัญ ไม่เลือกปฏิบัติ หากฝ่ายไหนกระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปแล้ว แต่ก็ยังมีกฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะอยู่ รวมทั้งความผิดอื่นๆ เช่น ห้ามผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ตามมาตรา 215 หรือการไปไปทุบทำลายสิ่งของ ทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 และ 360 กฎหมายตรงนี้ยังมีอยู่ ซึ่งการยกเลิกพ.ร.ก. นั้นเป็นความประสงค์ดีของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทุกคนถอยคนละก้าว หันมาใช้สติ และใช้กระบวนการผ่านสภาที่มีขั้นตอนอยู่
ถามว่ากรณีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มที่อาจมาเผชิญหน้ากัน ทาง พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ทางตำรวจค่อนข้างมีความหวั่นเกรง แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะถือกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าฝ่ายไหนกระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเย็นนี้จะมีการชุมนุมนั้น ทางผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ไปดูแล แต่หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สามารถร้องขอกำลังตำรวจจาก บช.น. ได้ ในส่วนกำลังควบคุมฝูงชนที่มาจากต่างจังหวัดขณะนี้ยังไม่ได้ปล่อยกลับ ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
