‘หนุ่ม กรรชัย’ ขอ ‘ลุงสมพงษ์’ เลิกปักหลักหน้า ตร. ลั่นจะช่วยเอง ลุงรอความจริงปรากฏ ใครเอารถไปขาย

‘หนุ่ม กรรชัย’ ขอ ‘ลุงสมพงษ์’ เลิกปักหลักหน้า ตร. ลั่นจะช่วยเอง แต่ลุงบอกขอสู้ตาย เพื่อความยุติธรรม ลั่นรอความจริงปรากฏใครเอารถไปขาย

กรณี “ลุงสมพงษ์ ชำนาญไพร” ชาว จ.นครสวรรค์ ไปปักหลักร้องเรียนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นเดือน กรณีถูกร้อยเวรเจ้าของคดีรับรถยนต์ไว้เป็นของกลาง แต่กลับขายรถคันดังกล่าวให้กับช่างคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ช่างแดง” ถึงตอนนี้ไม่มีความคืบหน้า ซ้ำถูก ตร.ฟ้องหมิ่นประมาท

รายการโหนกระแสวันที่ 6 พฤศจิกายน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ “ลุงสมพงษ์” และ “อำนวยมุกด์ดา ชำนาญไพร” ภรรยา พร้อม “ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล” รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ

ลุงนั่งอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหน?
สมพงษ์ : เดือนกว่าแล้ว

Advertisement

อะไรทำให้อัดอั้นตันใจ ต้องไปอยู่หน้า ตร.เป็นเดือน?
สมพงษ์ : ผมได้ประมูลรถคันไตตั้นวันที่ 20 ก.พ. ปี 2558

ลุงไม่ไปประมูลรถที่สมบูรณ์มา หลังจากนั้นยังไง?
สมพงษ์ : มีคนข้างบ้านรู้จักกันบ้าง มาขอซื้อ ชื่อนายมานพ ขอซื้อเดิมทีบอกแสนห้า แต่เขาต่อแสนสอง ก็ตกลงเป็นเงินสดแสนสอง แต่วันมารับรถ นายมานพเอาเงินมาแค่ 5 หมื่น บอกว่าขอจ่ายแค่ 5 หมื่นก่อนได้มั้ย ผมบอกว่าส่วนที่เหลือเมื่อไหร่จะจ่าย เขาบอก 30 วัน ก็ให้รถไป รู้จักกันบ้างแต่ไม่สนิท

ลุงให้รถเขาไป ทำการโอนหรือยัง?
สมพงษ์ : ยังครับ ไม่ได้โอน ทะเบียนรถเป็นชื่อผมหมด เขาให้เงิน 5 หมื่น แต่เอารถไป ขาดอีก 7 หมื่น ครบกำหนดที่ตกลงไว้ 30 วัน ผมก็โทรถาม โทรสามครั้งก็ไม่มา ต่อมารถคันนี้ไปซ่อมในอู่ แล้วมี ตร.ไปตรวจสอบทั้งอู่ เจอรถคันนี้เอกสารมันไม่มี เพราะเอกสารอยู่ผมไม่ได้ให้ไป เขาจ่ายเงินไม่หมด ผมบอกว่าให้เอกสารไม่ได้จนกว่าจะจ่ายเงินหมด ตร.เลยยึดเข้าโรงพักว่าเอกสารไม่มี พอเข้าโรงพัก เขาไปสืบดูข้างในว่าผมประมูลรถคันนี้ได้มา ร้อยเวรก็โทรหาผมว่าประมูลมาจริงมั้ย

Advertisement

เอาเอกสารไปโชว์เขามั้ย?
สมพงษ์ : ร้อยเวรโทรถามผมว่ามาคุยกันได้มั้ย ผมก็วานร้อยเวรให้ถามมานพว่ามีเงินให้ผมมั้ย มานพเขาบอกไม่มีตังค์มา ร้อยเวรก็บันทึกประจำวันไว้ก่อน เวลามา ก็เอามาให้ดูด้วย ต่อมามานพมีตังค์ เป็นปีกว่ารถจอดอยู สภ.

ทำไมลุงไม่เอารถออกมา ในเมื่อเอกสารอยู่ที่ลุง?
สมพงษ์ : มานพเขาก็อยากได้ ถ้าเอารถออกผมต้องคืนตังค์ 5 หมื่นให้เขา ผมก็ไม่คืนเพราะนานแล้ว ผมก็เอาไว้ที่นั่นก่อนให้เขามีเงินก่อนแล้วค่อยมาปิดบัญชีกัน ต่อมาเขามีตังค์จะมาปิดบัญชีรถคันนี้ พอเขาไปดูเอกสารที่บ้านว่าผมมีเอกสารหรือเปล่า ก็ให้ดูหมด พอให้ดูปุ๊บเขาขอไปดูรถที่โรงพักก่อน พอไปดูรถในโรงพัก เขาโทรมาหาว่ารถไม่มี เราเอามาหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ได้เอามา

รถที่จอดปีกว่าหายไปแล้ว มานพก็ถามลุงว่าเอารถไปหรือเปล่า?
สมพงษ์ : ผมบอกว่าไม่ได้เอามา ผมไม่เคยเข้าไปดูเลย ต่อมานายมานพเขาไปคุยกับร้อยเวรยังไงไม่รู้ แล้วร้อยเวรบอกว่าให้ไปดูในอู่ช่างแดงสิ ว่ารถอาจอยู่ในอู่ช่างแดง นายมานพก็ไปดู ก็เห็นรถจริงๆ อยู่ในอู่จริงๆ วันที่ 24 พ.ย. ปี 60

รถมันไปจากโรงพักได้ยังไง?
สมพงษ์ : ผมไม่รู้ พอนายมานพเห็นรถก็ไปรับภรรยา ผมไปอู่ช่างแดง ภรรยาก็เลยไปถ่ายรูปไว้ พอถ่ายรูปปุ๊บให้ภรรยาเล่าต่อ
อำนวยมุกด์ดา : พอไปถ่ายรูป ช่างแดงก็ยกรถคันนี้กลับไปไว้โรงพักแบบเก่า ยกซาก ยกโครงที่เหลือ ตอนที่เห็นรถเปลี่ยนสภาพ เหลือแต่โครงแล้ว ไม่มีเครื่องอะไรเลย จากตอนแรกรถมีครบหมดที่ขายไป เป็นซากแล้ว

หลังจากนั้นยังไงต่อ?
อำนวยมุกด์ดา : ช่างแดงเขาก็ยกรถคืนโรงพักวันเดียวกัน ฉันก็ได้ถ่ายรูปไว้หลังโรงพัก แล้วมานพขึ้นไปหาร้อยเวร คุยกันยังไงไม่รู้ ป้านั่งอยู่ข้างนอก วันนั้นนายมานพก็ไม่ได้รับรถกลับ จนวันที่ 6 ธ.ค. ปี 60 นายมานพก็ไปรับรถจากร้อยเวร ร้อยเวรได้จ่ายเงินให้นายมานพ 1.6 แสน

ไม่จ่ายให้ลุงเหรอ?
อำนวยมุกด์ดา : ไม่จ่าย จ่ายให้นายมานพ แล้วนายมานพก็เอาโครงรถกลับ และไม่เอาไปบ้านตัวเองนะ เอามาลงที่เต็นท์ฉันก่อน บอกเดี๋ยวกลับมาเอง แต่ตังค์ 7 หมื่นก็ไม่ให้

เท่ากับลุงซื้อรถ 9 หมื่น ขายให้มานพ 5 หมื่น ยังไม่ได้โอนอะไร?
อำนวยมุกด์ดา : ยัง อีกเป็น 10 วัน นายมานพย้อนกลับเอาเงินมาให้อีก 3.8 หมื่น เขาไม่เอาโครง บอกว่าไม่มีอะไรเหลือแล้ว เขาซ่อมไม่ไหว

สุดท้ายมานพไม่เอาอะไรเลย ลงทุน 5 หมืน จ่ายให้ลุงครั้งแรก แล้วจ่ายอีก 3.8 หมื่น ลุงได้เงินทั้งหมด 8.8 หมื่น ก็ไม่ได้เป็นตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ เท่าที่ฟังเหมือนเรื่องลุงเป็นข้อพิพาทระหว่างลุงกับมานพ แล้วทำไมอยู่ดีๆ เป็นพิพาทระหว่างลุงกับ ตร.ได้ยังไง?
สมพงษ์ : ผมถามร้อยเวรว่าใครขายรถคันนี้ให้ช่างแดง ไปอยู่ในอู่ช่างแดงได้ยังไง นายมานพเขามาเห็นทีหลังนี่ รถไปเมื่อไหร่ไม่รู้

ประเด็นที่เกิดขึ้น ลุงมีหลักฐานมั้ยว่าช่างแดงเป็นคนบอกมั้ยว่าใครเป็นคนขาย?
อำนวยมุกด์ดา : มีคลิปช่างแดงพูดกับนักข่าวว่าเขาซื้อจาก ตร. ตร.ขายไป

ตร.ซื้อขายรถได้เหรอ?
ดร. มนต์ชัย : จริงๆ เรื่องยังไม่จบ ยังขายไม่ได้ ณ ตอนนั้น ก็แปลกใจว่าทำไมอยู่ดีๆ ตร.ไม่อธิบายบอกให้ลุงทราบว่าขายไปให้ใคร ยังไง ผมคาใจตรงนี้

ไปฟังเสียงช่างแดง?
ช่างแดง : บอกให้ผมไปเหมาซื้อเป็นเศษเหล็ก 4-5 คันในโรงพักเป็นเงิน 2 หมื่น มี ตร.คนนึงมารับไป บอกว่านายจะเอาตังค์ ผมก็ให้เขาไป พอมีเรื่องเขาจะเอาของกลางคืน พอดีขายไปแล้วบ้างก็มีไม่ครบ ก็เอาโครงไปคืนอย่างเก่า

อันนี้เขาบอก ตร.ขายไป ?
ดร. มนต์ชัย : หมายความว่ารถยังเป็นของกลาง มีการเอารถคันนี้ไปขายให้ช่างแดง ช่างแดงก็เอาเงินให้ ตร.ไป กรณีลุงไปหา ตร. ทำไม ตร.ไม่บอกว่าเขาเป็นคนขายให้ช่างแดง
สมพงษ์ : ผมถามตลอดว่าใครเป็นคนขาย ท่านช่วยเขียนมาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าใครเป็นคนขาย ร้อยเวรบอกว่าเขาไม่ได้ขาย ถ้า ตร.ไม่ขายแล้วไปอยู่อู่ช่างแดงได้ยังไง มันมีใครเกี่ยวข้องบ้าง


ข้อพิพาทแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกลุงมีข้อพิพาทกับมานพ เพราะมานพซื้อรถลุงไป แต่จ่ายตังค์ไม่หมด ลุงต้องฟ้องเขาว่าทำไมเอารถไปและจ่ายไม่ครบ นี่หนึ่ง สองมานพเอารถไป แล้ว ตร.เอารถไปไว้ที่ สภ. ผ่านมาสักพัก ตร.เอารถไปขาย น่าจะป็นเรื่องมานพที่เกิดกับ ตร.หรือเปล่า
?
สมพงษ์ : ถ้าเป็นเรื่องมานพกับ ตร. เวลาผมไปรับรถ ทำไมต้องให้ผมมอบอำนาจเอารถออก ถ้าเป็นสิทธิมานพ วันไปรับรถขนาดภรรยาผมไปเอง ร้อยเวรยังไม่ยอมให้ ให้ไม่ได้ ลุงต้องมอบอำนาจมา ถ้าเป็นสิทธิมานพ ก็ให้มานพไปเลยสิ ไม่ต้องให้ผมมอบอำนาจ

ลุงถูกร้อยเวรนายนั้นฟ้อง?
สมพงษ์ : ใช่ครับ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เขาหาว่าผมพูดพาดพิงชื่อเขาตอนนักข่าวช่องนึงมาสัมภาษณ์ เขาถามว่าร้อยเวรชื่ออะไร ก็หลุดชื่อออกไป หลังจากนั้นมีหมายเป็นผู้ต้องหาทันที

ลุงพูดมั้ยว่าร้อยเวรเป็นคนขาย?
สมพงษ์ : ผมไม่ได้พูดคำนั้น แต่ผมบอกว่าร้อยเวรคนนี้เป็นผู้รับรถคันนี้ และเอ่ยชื่อเขาไป
ดร.มนต์ชัย : ผลคดีเป็นยังไง ตร.ไปแจ้งความ อัยการสั่งฟ้องหรือยัง
สมพงษ์ : ยังไม่ฟ้อง ยังอยู่ที่อัยการ ยังไม่ได้ส่งขึ้นศาล
ดร.มนต์ชัย : หมายความว่าอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม กรณีนี้ถ้าลุงพูดจาโดยสุจริต เล่าเหตุการณ์จากความรู้สึกตัวเองแบบนี้ มีข้อต่อสู้ได้
สมพงษ์ : ผมพูดตามเอกสารที่ท่านแจ้งความ เป็นคนรับรถคันนี้ไว้ ที่นักข่าวผม ผมบอกว่ามีเอกสารที่ท่านร้อยเวรรับรถ ผมก็พูดตามนี้
ดร.มนต์ชัย : สิ่งที่ลุงพูดถูกต้องแล้ว ลุงถูกกระทำก่อนก็เลยฟ้องก่อน ลุงต้องทำหนังสือชี้แจงความเป็นธรรมไปยังสำนักงานอัยการ เพราะอัยการจะเป็นคนฟ้องดำเนินคดี ถ้าลุงเล่าเหตุการณ์ไปตามความเท็จจริง ไม่ได้นินทาว่ากล่าวใคร แบบนี้เป็นข้อต่อสู้ได้

เห็นว่าโดนทนายหลอกเอาเงิน?
สมพงษ์ : สองรอบแล้ว
อำนวยมุกด์ดา : เที่ยวแรกเรื่องหมิ่น 4 หมื่น
สมพงษ์ : พอไปถึงโรงพัก ร้อยเวรที่แจ้งผมเป็นผู้ต้อหา เขาเอาเที่ยวละหมื่น วันละหมื่นผมก็โอเค แต่พอไปวันแรก วันที่สอง วันที่สาม ร้อยเวรไม่อยู่ ผมเสียไป 3 หมื่น พอวันที่สี่ผมบอกไม่อยู่ก็ไม่เอาแล้วนะ จะจับก็จับ

โดนหลอกมั้ย?
ดร. มนต์ชัย : ไม่กล้าวิจารณ์แล้วแต่ตกลงกัน การว่าจ้างทนาย
สมพงษ์ : ไม่ได้ตกลง เราชาวบ้านก็นึกว่ามาวันเดียวจบเลย
ดร.มนต์ชัย : สิ่งที่ลุงทำมาถูกแล้ว การที่ลุงเล่าเหตุการณ์ชี้แจงสิ่งที่ลุงถูกฟ้อง เดี๋ยวสำนักงานอัยการให้ความเป็นธรรม ไม่ต้องกังวล

ลุงไปปักหลักอยู่หน้า สตช. วันนี้ถ้า ตร.หรือใครก็ตามแต่ บอกว่าลุง ได้ไป 8 หมื่นแปด เงินขาดอีก 4 หมื่นกว่าบาท เอาไปอีก 4 หมื่น จบเรื่องมั้ย?
สมพงษ์ : ไม่จบแล้ว เรื่องมาเยอะเกินแล้ว วันที่ 24 พ.ย. รถไปอยู่อู่ช่างแดง ตามภาพรถเหลือแต่โครงแล้ว ร้อยเวรท่านนี้แจ้งความอย่างนี้แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง วันที่ 6 ธ.ค. ร้อยเวรแจ้งความว่ารถคันนี้ท่านเอามา แล้วลายเซ็นนี้ป้าไม่ได้เซ็น ป้าไม่เห็นมาเลย
ดร.มนต์ชัย : มันเป็นใบลงบันทึกประจำวัน ต้องมีคนปลอมแปลงลายเซ็นป้า

เนื้อหาในนี้ลุงติดใจอย่างนึง เหมือนมีการคืนรถให้ลุงในสภาพสมบูรณ์เรียบร้อย ไม่มีรถพัง แต่สภาพความเป็นจริง ลุงให้ดูว่าวันที่ 24 เห็นภาพอยู่แล้วว่ารถพัง ทำไมในนี้เขียนว่ารถสภาพสมบูรณ์?
ดร.มนต์ชัย : แสดงว่าข้อความในนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เรื่องนี้คนที่เขียนร้อยเวรก็ต้องรับผิดชอบ เพราะเขาเป็นคนเขียน

คนเดียวกับที่แจ้งความลุง?
สมพงษ์ : คนเดียวกัน

ลายเซ็นก็ไมใช่ลายเซ็นป้า?
อำนวยมุกด์ดา : “มั่นใจว่าไม่ได้เซ็น”


โฟนอินสัมภาษณ์ “พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ” รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กรณีลุงไปปักหลักหน้า สตช. กรณีนี้มีทางเป็นไปได้มั้ย ลุงติดใจ ตร.คนไหนเอารถแกไปขาย
?
พ.ต.อ.กฤษณะ : คดีทั้งหมดที่พูดกัน เป็นคดีเริ่มเกิดวันที่ 23 มี.ค. ปี 61 มีข้อพิพาทเรื่องการนำทองปลอมมาฝากขาย เลยมีการเรียกคุณสมพงษ์มาสอบในฐานะพยาน และมีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา ตร. ตั้งแต่ปี 2561 หลังจากนั้นเท่าที่ทราบมีการร้องเรียนผู้กำกับโรงพักนครสวรรค์ และส่วนพนักงานสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ ตร. ทั้งส่วนกองบังคับการ ตร.ภูธรนครสวรรค์เองก็ดี ก็การดำเนินการตามเรื่องการร้องเรียนตลอด ส่วนคู่กรณีคือพนักงานสอบสวน ทราบว่าย้ายไปดำรงตำแหน่งในที่อื่นแล้ว เป็นเรื่องคาราคาซังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ และส่วนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตลอด ส่วนการปกครองด้วย ยังไม่ได้เป็นที่ยุติในส่วนใด ก็ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

ลุงแกติดใจว่าทำไม ตร.เอารถคันนี้ไปขายได้?
พ.ต.อ.กฤษณะ : การนำรถของกลางในคดีอาญาไปขายต้องไปดูว่าโดยหลักแล้ว ไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนได้เลยคือเมื่อเสร็จคดีแล้ว ก็ต้องเข้าสู่ระบบคดี คงไม่สามารถเอาไปถอดอะไหล่ แล้วเอาไปขายได้เพื่อเอาทรัพย์สิน คงไม่สามารถทำได้ ประเด็นที่เป็นข้อพิพาทก็อยู่ในกระบวนการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เงียบหายไปไหน ผมก็เรียนลุงสมพงษ์บางส่วนแล้ว

ถ้าสมมุติมีการสืบทราบว่ามี ตร.นายไหนเอาของกลางออกไปขาย มีหลักฐานพยานยืนยัน ผิดมั้ย?
พ.ต.อ.กฤษณะ : มีความชัดเจนอยู่แล้ว ของกลางคดีอาญา ก็เป็นของกลางคดีอาญา เมื่อเกิดคดีแล้วต้องมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด อะไรก็ตามที่นอกเหนือจากนี้ มีความผิดปกติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการ ก็มีความผิด ความบกพร่องอยู่แล้ว ยินดีรับข้อมูลเอาไปประกอบ ถ้าบางส่วนอยู่ในส่วนการดำเนินการของ ตร. แต่ถ้าส่วนอื่นที่อยู่ในหน่วยงานอัยการ ก็คงไม่สามารถก้าวล่วงได้

ลุงไม่เอาเงินแล้ว ขอแค่เรื่องเดียว อยากรู้ใครเอารถไปขาย?
สมพงษ์ : ใช่ครับ

คู่กรณีมีข้อพิพาทกับลุง เหมือนลุงต้องมีข้อพิพาทกับมานพ?
ดร.มนต์ชัย : การที่ผู้ซื้อชำระหนี้บางส่วน เขาเรียกว่าการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ กรณีเขาไม่จ่ายเงินกับลุง ลุงต้องไปฟ้องเขาผิดหลักซื้อขายก่อน แต่ปัญหาเกิดขึ้นโดยรถคันนี้กลายเป็นของกลางคดีอาญา ตร.อาจมีส่วนรู้เห็น กรณีทำซากอะไร แต่เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เรื่องการขายซาก ลุงรอท่านรองเขาสรุปก่อน
สมพงษ์ : ผมถามว่าถ้าของกลางร้อยเวรได้ชดใช้นายมานพไปแล้ว ความผิดอยู่ตรงไหน เอาของกลางไปขาย พอเจอนายมานพปุ๊บเอาเงินให้นายมานพ ความผิดไม่มีแล้ว
ดร.มนต์ชัย : ความผิดสำเร็จไปแล้ว กรณีนี้อัตราโทษลุงอย่าเพิ่ง อยู่ที่การสอบสวนก่อน ว่าเขาผิดจริงหรือไม่จริง เกรงว่าเราจะไปก้าวล่วงการสอบสวน


ส่วนเรื่องทอง ลุงโดน ตร.ร้อยเวรคนเดิมแจ้งความว่าลุงเอาทองปลอมไปขาย แล้วอยู่ดีๆ มีลายเซ็นลุงเซ็นรับสารภาพ ซึ่งลุงไม่ได้เซ็น หลังจากนั้นลุงเองไปรับทราบแล้วไปเซ็นชื่อให้ดูว่าลายเซ็นลุงเป็นแบบนี้ เซ็นกี่ทีก็เซ็นแบบนี้ ซึ่งดูแล้วลายเซ็นไม่เหมือนกัน ลุงอ่านหนังสือออกมั้ย
?
สมพงษ์ : ไม่ออก เขียนชื่อได้อย่างเดียว

แต่อันนั้นลุงไปเซ็นรับสารภาพ ว่าเอาทองปลอมไปขาย เรื่องเกิดตอนไหน?
สมพงษ์ : หลังจากเรื่องรถไปแล้ว พอถามว่าร้านทองร้านไหน เขาบอกร้านทองปิดไปแล้ว ก็ขอใบแจ้งความว่าอยู่ไหน ร้อยเวรบอกไม่มี

จะกลับไปปักหลัก สตช.อีกมั้ย?
สมพงษ์ : ต้องปักหลัก ขอความเห็นใจนาย ให้ร้อยเวรเซ็นมาว่าใครขายรถผมไป
อำนวยมุกด์ดา : ขอให้ร้อยเวรเซ็นมาว่าใครเป็นคนขาย ยศตำแหน่งอะไร แค่นั้นแหละกลับบ้านเลย
สมพงษ์ : วันนั้นที่เขามาเขายังไม่ยอมรับเลย เขาแจ้งความ

กลับได้มั้ย เดี๋ยวตามให้?
สมพงษ์ : ไม่กลับ จะอยู่เดือนสองเดือน จนกว่าผู้บังคับบัญชาเห็นใจ
ดร.มนต์ชัย : เท่าที่ดูกรณีทองปลอม เป็นหมายเรียกพยาน ลุงยังไม่ได้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา เป็นการกล่าวหาระหว่างคนสองคนคือ น.ส.รัตนา และ น.ส.พิชญา สองคนนี้เป็นคู่พิพาทกัน หมายเรียกคุณลุงให้มาสอบสวน คุณลุงไม่รู้เรื่องเหตุการณ์นี้เลยเหรอ
สมพงษ์ : ไม่รู้เลย ผมไม่รู้จัก พอไปถึงผมก็บอกว่าไม่รู้จัก ผมย้อนถามว่าอยู่ไหน คนมาแจ้งความ เรียกมาคุยหน่อย พอเจอเขาก็เปิดให้ผมเซ็น ในช่องขายฝากทอง จะให้ผมเซ็นซ้ำ ตั้งแต่ปี 56 ขายฝากทอง แล้วถ้าเป็นทองปลอม ทำไมปล่อยมาจนถึงตอนนี้ ร้านทองเขาก็ไม่ปล่อยออกมาหรอก
ดร.มนต์ชัย : ตร.ไม่ได้อธิบายให้กระจ่าง
สมพงษ์ : ผมไม่เซ็น แล้วป้าก็ถ่าย เขาบอกว่าถ่ายไม่ได้
ดร.มนต์ชัย : นี่เป็นเอกสารที่ ตร.เอามาประกอบให้ลุงดูว่าลุงเป็นคนขายฝาก
สมพงษ์ : แล้วถามว่าผมเสียหายมั้ย ชาวบ้านเห็นคนบ้านนอกไอ้นี่จนถึงขนาดเอาทองปลอมไปจำนำ แล้วผมจะทำยังไง ลูกเต้าก็มี เขาจะมองยังไง
อำนวยมุกด์ดา : ความเสียหายเยอะเลยเรื่องทองปลอม อายเขา

แล้วเห็นบอกว่าให้ลุงไปเซ็นชื่อ เพื่อไปพิสูจน์ทราบลายเซ็น ลุงก็ไปเซ็นมาให้ วันนี้เอาไปเปรียบเทียบหรือยัง ว่าอันนั้นของปลอมหรือจริง?
สมพงษ์ : เขายังไม่ตอบผมเลย
ดร.มนต์ชัย : ลุงเซ็นปี 60 วันนี้ผลยังไม่ออกเหรอ

ได้ถามเขามั้ย?
สมพงษ์ : ถาม เขาบอกว่าให้คำตอบลุงไม่ได้ แล้วให้เซ็นทำไม เอามาจากไหน ใบปลอมลายมือ ตอบอะไรให้ชัดเจน เรื่องทองปลอมผมเสียหาย

เขาให้ลุงเซ็นเยอะๆ เขาเอาไปทำอะไร?
สมพงษ์ : เขาบอกจะเอาไปเปรียบเทียบ ก็ไปตามผลแล้ว แต่เขาบอกว่าให้ไม่ได้ ผมอยากให้เรื่องตรงไปตรงมา ถ้าผมเซ็นผมก็น้อมรับ
อำนวยมุกด์ดา : เขาบอกให้ไม่ได้ เป็นความลับของเขา เขาไม่ให้
ดร.มนต์ชัย : ถ้า ตร.สั่งฟ้องไปแล้วฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ต้องดูว่าคนเอาเอกสารลุงมาใช้ต้องเป็นคนปลอม ลุงต้องแจ้งความ
สมพงษ์ : แจ้งไปแล้ว แจ้งเอาผิดว่าใครปลอมลายมือผม
ดร.มนต์ชัย : ลุงทราบมั้ยว่าลุงกับมานพต้องเป็นคู่สัญญา มานพซื้อรถคันนี้ไปแล้ว แต่ค้างเงินอยู่ การค้างเงินเป็นเรื่องการผิดสัญญาซื้อขาย ลุงต้องไปฟ้องร้องค่าซื้อขาย ทะเบียนรถกับการซื้อขายคนละส่วนกัน แต่เข้าใจว่าเมื่อรถกลายเป็นของกลางในคดีอาญา บุคคลที่เป็นพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจเอาของกลางที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นเอาไปขาย

มุมกลับกัน มี ตร.ท่านนึงเอาเงิน 1.6 แสนให้มานพไป เพราะมองว่าเป็นอำนาจตัดสินใจมานพไปแล้ว แม้ไม่มีการโอนสิทธิ ถ้า ตร.นายนี้ใช้วิธีเอาเงินจากคนอื่นเอาเงินฝาก ตร.มาให้มานพ เพื่อให้เป็นของมานพถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนตกลงซื้อขายกับมานพ ลุงก็ไปฟ้องเขาไม่ได้?
ดร.มนต์ชัย : มานพทำสัญญาหรือขายให้ใครคนใดคนหนึ่ง คนนั้นก็มีสิทธิ แต่รถของลุงทำการซื้อขายต่อจากนายมานพไม่ได้ เพราะเป็นของกลาง
สมพงษ์ : ถ้าร้อยเวรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถคันนี้แล้วจะไปจ่ายเงินให้มานพเพื่ออะไร ผมอยากรู้ตรงนี้

ถ้าเขาบอกว่าแสนหกมีคนซื้อต่อจากมานพ มานพมีสิทธิขายมั้ย?
ดร.มนต์ชัย : ถ้ารถคันนี้ไม่เป็นของกลาง มานพมีสิทธิ แต่รถคันนี้เป็นของกลาง เขาไม่มีสิทธิ

ทำไม ตร.เอาเงินแสนหกมาให้มานพ เอาแบบตรงไปตรงมาชาวบ้านพูด ใครขาย จบกลับบ้าน ถ้าเขาบอกมาจะฟ้องเขามั้ย?
อำนวยมุกด์ดา : ยังไม่รับปาก ต้องดูความจริงใจเขาก่อน

ถ้าเขาขอโทษว่าขายไปเอง?
สมพงษ์ : วันที่ 6 ธ.ค. เขายังไม่รับเลย เขามาสำนักงาน ตร.แห่งชาติ บอกว่าเขาไม่ได้แจ้ง แต่เป็นชื่อเขาเป็นคนแจ้ง แล้วจะให้ผมพูดยังไง

สุดทางยังไง?
สมพงษ์ : เงินไม่ต้องพูดถึง ไม่เอา ผมแค่อยากให้เขาเขียนมาว่าใครขายรถคันนี้ให้ช่างแดง ขอแค่นั้นเอง
ดร.มนต์ชัย : ลุงรู้มั้ยว่ากรณีที่เขาไม่กล้าเขียน จะมีผลถึงโทษที่เขาเอาของกลางไปขาย คือลุงไปมัดมือเขาในบางส่วน ใครจะไปเขียน ผมขายรถของกลางให้ลุง ผมก็ผิดสิ
สมพงษ์ : ไม่เขียนก็ไม่ยอมสิ รถมันไม่ใช่นก จะได้บินออกไปเอง แล้วช่างแดงยกโครงมาโรงพัก ร้อยเวรก็รู้อยู่

ปัญหาตอนนี้ขอแค่อย่างเดียว คุณเอาของกลางไปขายได้ยังไง?
สมพงษ์ : ชื่นใจเลยที่คุณพูด


ไปนอนตรงนั้น อาบน้ำยังไง
?
สมพงษ์ : มีห้องน้ำ เวลาไม่มีคน ดึกๆ ผมก็ไปอาบ ข้าวก็เดินไปซื้อเซเว่น บางทีก็มีคนเอามาให้บ้าง

ตร.ไล่มั้ย?
สมพงษ์ : ไล่ผมไม่ได้หรอก ผมมาร้องทุกข์ ไม่ได้มาเปิดท้ายขายของ เขาไล่ตลอด ผมก็พูดอย่างนี้ บางทีจะเอารถห้องขังมาถามว่าผมกลัวมั้ย กลัวไม่ใช่กลัว ไปจับคนขายรถผมก่อน ไปจับช่างแดงก่อน แล้วขังรวมไปเลย 3 คนถึงจะถูก มันถึงจะยุติธรรม จับผมคนเดียวไม่ได้ ตร.ผู้ใหญ่ก็มาคุยกับลุง ตอนแรกบอกว่า 7 วันจะให้คำตอบ จนเลยมาถึง 15 วันไปถามก็ยังตอบไม่ได้ แล้วโฆษกบอกว่า 24 ชม. ผมเก็บของเลยกะว่าได้คำตอบ ผมไปถึง 24 ชม. ผมเขียนใบลงบันทึกประจำวัน มาขอคำตอบ ทางโน้นบอกว่ากำลังสอบกันอยู่ แล้วจะสอบอะไร ไปเรียกร้อยเวรมาสิ เรียกช่างแดงมา และเรียกผมไป 3 คนก็จบแล้ว ไม่ใช่จะจบไม่ได้

ไปฟ้องผู้กำกับด้วยเหรอ?
สมพงษ์ : ไม่เกี่ยว ผมไปร้องผู้กำกับคนแรก เขาพูดไม่ดี
อำนวยมุกด์ดา : เขาดุ เขาว่าป้าตะโกน
สมพงษ์ : เขาพูดว่าลุงต้องฟัง ตร.บ้าง ผมก็บอกว่า ตร.ก็ต้องฟังผมบ้าง ต้องฟังทั้งสองฝ่าย เขาบอกว่าลุงพูดมากเดี๋ยวก็ขังซะนี่
อำนวยมุกด์ดา : เดือนแรกใครทำผิด แค่ขอโทษก็จบแล้ว

ทำไม ตร.ไม่ไปสืบหาว่าใครขาย?
ดร.มนต์ชัย : จริงๆ ทุกอย่างก็เป็นประจักษ์พยาน ช่างแดงก็บอกว่า ตร.ขาย จริงๆ สั่งสืบได้ว่าใครเอาไปขาย
สมพงษ์ : พูดอย่างนี้ผมชื่นใจ ถ้าไม่รู้จักกันจะให้ได้มั้้ย ผมไปขอยืมตังค์สัก 2 หมื่นท่านจะให้มั้ย แล้วในคลิปช่างแดงบอกว่านายให้มารับตังค์ แล้วนายคือใคร ระบุมาสิ คนไหน

ลุงก็เลยอยากรู้ว่านายที่ว่าคือใคร?
สมพงษ์ : ใช่

กลับบ้านมั้ยตามเรื่องให้?
สมพงษ์ : ไม่กลับ จะอยู่จนนายเขาเรียกลูกน้องมาให้คำตอบ จะเอาเรื่องหรือไม่เอาเรื่องก็อีกที เราต้องทน ขึ้นมาถึงขั้นนี้แล้ว ลงไปเสือกัดแน่ ผมบอกลูกหลานไม่ต้องเป็นห่วง มาถึงขั้นนี้ต้องมีคนถูกกระทำก่อนผมอีกเยอะ จะได้รู้ว่าทีหลังถูกกระทำก็ไปต่อสู้กับเขา อย่าไปคิดว่าเราไม่มีอำนาจ ไม่ใช่ ผมจะเอาความถูกต้องของผมที่ผมสู้อยู่ ผมอายุ 60 กว่าแล้ว ต้องสู้กัน มันไม่ใช่เรื่องรถอย่างเดียว ถ้าแค่เรื่องรถอย่างเดียวผมกลับไปแล้ว เราเป็นคนไม่เอาเปรียบเขา ต้องให้โอกาสผมบ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image