เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก สั่งการให้ พ.ต.ท.สาธิต สอนชา รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และ พ.ต.ท.อนุพงษ์ อรุณคีรีโรจน์ สว.สส.สน.บางรัก นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก จับกุมนายจารึก หรือหนึ่ง ช้างสว่าง อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตระเวนกระชากสร้อยคอทองคำ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน สมร 406 กรุงเทพมหานคร และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จับกุมได้ริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 99/116 หมู่บ้านธีรินทร์ แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายเป็นหญิงวัย 64 ปี มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่าขณะยืนอยู่หน้าบ้านเลขที่ 243/1 ซ.สะพานยาว แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.ก็มีคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทำทีขอช่วยเข็นรถเข็น ก่อนจะกระชากเอาสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายไป ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 175 เซนติเมตร ผิวดำแดง สวมหมวกนิรภัยสีดำมีลาย สวมเสื้อแขนยาวสีขาว สวมกางเกงยีนส์ขายาว และรองเท้าผ้าใบสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่พีซีเอ็กซ์ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พนักงานสอบสวนจึงขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ
ต่อมาชุดสืบสวนไปตรวจสอบยังหน้าบ้านเลขที่ 99/116 พบคนร้ายยืนอยู่ จึงเข้าไปแสดงตัวจับกุมนายจารึก ก่อนยึดของกลางมาสอบสวนที่ สน.บางรัก โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า จะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เพราะต้องเลี้ยงดูครอบครัวเพียงคนเดียว โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสูงอายุ เพื่อจะได้ง่ายต่อการประทุษร้าย หลังก่อเหตุตนได้แวะเปลี่ยนเสื้อและรองเท้าภายในซอยจันทน์ 43 แยก 6 เมื่อถึงซอยเพชรเกษม48 แยก4-7 จึงทิ้งหมวกกันน็อคและเสื้อแขน แล้วขี่รถหลบหนีต่อไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนร้ายรายนี้พบว่าเคยต้องโทษใน 5 หมายจับ ได้แก่ วิ่งราวทรัพย์ สน.บางรัก ปี 2557 วิ่งราวทรัพย์ สน.พลับพลาไชย 2 ปี2557 อีก 4 หมาย และเคยถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพก่อนจะพ้นโทษเมื่อปี 2561 หากมีผู้เสียหายรายใดตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้สามารถติดต่อตำรวจ สน.บางรัก เพื่อแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที
