ตร.ยกระดับป้องกันขั้นสูงสุด รับม็อบแยกราชประสงค์ วันนี้ เตือนผู้ชุมนุมห้ามรุกล้ำทำลายทรัพย์สินราชการ

ตร.ยกระดับการป้องกันขั้นสูงสุด เตรียมกำลังผลัดละ 6 กองร้อย รับม็อบแยกราชประสงค์ วันนี้ เตือนม็อบห้ามรุกล้ำทำลายทรัพย์สินราชการ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์ชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกยนที่ผ่านมา และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์วันนี้

พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า แนวทางการปฏิบัติในวันนี้ ตร.ให้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมที่ถูกกฎหมาย และทำหน้าที่ปกป้องความสงบเรียบร้อยของสังคม อะไรก็ตามที่ทำให้สังคมไม่สงบเรียบร้อย ตำรวจมีหน้าที่ระงับยังยั้งเหตุ และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งนี้เตือนผู้ชุมนุมที่จะมาทำกิจกรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น หากรุกล้ำเข้ามาในสถานที่ราชการ หรือเข้ามาทำลายทรัพย์สิน ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อยับยั้งสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย มีความเสียหายเกิดขึ้น โดยวันนี้ รพ.ตำรวจ ได้เตรียมความพร้อมสูงสุดรองรับผู้ป่วย และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า วันนี้ตำรวจได้เตรียมกำลังผลัดละ 6 กองร้อย โดยรอบพื้นที่แยกราชประสงค์ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยแยกราชประสงค์โดยรอบ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) ว่า มีการควบคุมจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงตลอดห้วงเวลา ซึ่งทั้งหมดเป็นตามกฎหมายและตามหลักสากล โดยมาตรการที่ใช้ในการปฏิบัติเป็นมาตรการที่มีความจำเป็นเท่านั้น ยืนยันว่าตำรวจไม่มีการใช้กระสุนยาง กระสุนจริง ในปฏิบัติงานแต่อย่างใด ย้ำตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งของผู้ชุมนุม แต่ทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมาย

Advertisement

สำหรับยอดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจเมื่อวานนี้ มีรถฉีดน้ำสกัดผู้ชุมนุม 4 คัน รถน้ำ 2 คัน รถควบคุมผู้ต้องหา 2 คัน รถบัส 3 คัน รถตู้ 13 คัน รถกระบะ 3 คัน และและรถอเนกประสงค์ 3 คัน ซึ่งวันนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะรถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) ซึ่งมีราคาแพง เป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้ถูกทำลายด้วยการตัดแผงวงจรควบคุม มีการนำทราย เศษอาหาร เศษเหล็ก ไปใส่ไว้ในเครื่องยนต์กลไก

พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวเสริมว่า การทุบทำลายทรัพย์สินราชการที่มาจากภาษีพวกเราเอง ไม่ทำให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจบไป เพราะตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ที่สำคัญทำลายรถแต่ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป เพราะมีหน้าที่รักษากฎหมายบ้านเมือง

Advertisement

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า จากการประสานกับศูนย์เอราวัณ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะทั้งหมด 55 คน นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมถูกยิง จำนวน 2 ราย มาจากกลุ่มทั้ง 2 ฝ่ายทั้งกลุ่มราษฎรถูกยิงที่ต้นขาซ้าย และอีกกลุ่มที่ถูกยิงบริเวณสะโพกขวา ส่วนปลอกกระสุนปืนที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ยังไม่มีใครส่งมอบให้ตำรวจ ซึ่งหากประชาชนพบหลักฐานใดในพื้นที่ชุมนุมสามารถนำส่งให้เจ้าพนักงานท้องที่ได้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามกรณีมีผู้ไม่หวังดีการเผยแพร่ภาพ-คลิปเฟคนิวส์การเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมสวมใส่เสื้อสีเหลืองไปอยู่ที่ถนนทหาร โดยอ้างว่าตำรวจอำนวยความสะดวก พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า กรณีนี้ตำรวจต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดพื้นไว้เท่านั้น ส่วนกรณีที่พบมีภาพยาเสพติดอยู่ในรถตู้ตำรวจที่ใช้ในการปฏิบัติราชการ ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ นั้น กรณีนี้ได้นำตำรวจทั้ง 7 นาย ที่โดยสารรถคันนี้ไปตรวจทดสอบสารเสพติดแล้วซึ่งผลพบว่าทั้งหมดผลเป็นลบ ไม่พบสารเสพติด ซึ่งได้มีการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบว่าสิ่งของสำคัญต่างๆ ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวสูญหายหมดเหลือเพียงยาเสพติดอยู่ตามภาพเท่านั้น ซึ่งเชื่อได้ว่าวัตถุยาเสพติดนั้นอาจถูกนำมาวางภายหลัง หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่าเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นำยาเสพติดเข้าไปในการชุมนุมและการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด เบื้องต้นได้ให้ตำรวจทั้ง 7 นายแจ้งความร้องทุกข์กับ สน.พื้นที่ ในข้อหาทำให้ทรัพย์สินส่วนราชการเสียหาย และทรัพย์สินส่วนตัวสูญหาย

ถามว่ากรณีตำรวจฉีดน้ำสีม่วงและสีน้ำเงินใส่ผู้ชุมนุม มีส่วนประกอบแตกต่างกันอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เป็นการทำสัญลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล ให้ทราบตัวผู้กระทำผิดเพื่อใช้ในการดำเนินคดีในแต่ละวัน ยืนยันว่าการใช้สารเคมีเป็นไปตามมาตรฐานสากล การผสมสารเคมีในน้ำที่ตำรวจใช้เป็นไปตามระบบและมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตจากต่างประเทศ ได้การรับรองจากอียูชัดเจน และสั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ตำรวจไม่เข้าควบคุมสถานการณ์มีมวลชน 2 กลุ่มมาปะทะกันบริเวณแยกเกียกกาย ตำรวจจะชี้แจงอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ได้อธิบายเรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่มวลชนกลุ่มราษฎรฝ่าแนวตำรวจ จนตำรวจต้องถอยร่นมาอยู่ด้านหน้ารัฐสภา ส่วนจุดที่มีการปะทะกัน อยู่ห่างจากจุดชุมนุมแยกเกียกกาย 300 เมตร ใกล้เคียงชุมชนวัดใหม่ทองเสน ทั้งนี้เรามีเจ้าหน้าที่จำนวนจำกัด และมีผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปในรัฐสภา ซึ่งตำรวจต้องควบคุมดูแลพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นหลักเนื่องจากเป็นจุดสำคัญของประเทศ มีความจำเป็นต้องใช้กำลังไปรักษาพื้นที่ในจุดนั้น อย่างไรก็ตามเป็นพื้นที่กว้างไม่สามารถดูแลทุกๆ ตารางนิ้วได้ แต่เราทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image